วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2560

มรดกวัฒนธรรม มรดกประวัติศาสตร์ และมรดกความรู้:ศาสตร์การอนุมาน

31
เชียงราย หลายรูปที่เหลือในความทรงจำของเดือนก.ค. ตอนกลับมาวันนั้น ผมมีบทสนทนาเรื่องหนังสือกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ทำให้ผมคิดเขียนบันทึกเหมือนหนังสือเกี่ยวกับเดินทางท่องเที่ยว ในแง่หนังสือ คือ เพื่อนเดินทาง สำหรับการอ่าน แต่มุมด้านการอ่านสำหรับผม“ว่าด้วยสำนวนอ่านหนังสือใช้เวลาเท่ากับคนเขียน9ปีคนอ่านต้องอ่าน9ปี แล้วอาจารย์ก็บอกว่าอย่างนี้ในชีวิตคนเราก็อ่านหนังสือแค่สิบเล่มน่ะสิ”(ฮร่า)
(ภาพประกอบบรรยากาศเชียงราย)
1สิงหา
ผมทำงานแผนที่ต่อเนื่อง ทำให้ผมนึกถึงเคยเขียนบันทึกเรื่องการอ่านไว้มาเผยแพร่ ในแง่หน้าที่บทบาทของผู้อ่านฯ(*)ผลงานนิยายของeco ซึ่งผมอ่านยังไม่แตกฉาน แต่ผมมาเล่าพร้อมคารวะแด่ผู้เขียนที่เพิ่งเสียชีวิตไปในปีนี้ ซึ่งผมอ่านแล้วเกิดความคิดใหม่(**)ในนิยาย Foucault’s Pendulum (***) ดังนี้ คือ แผนที่เป็นรูปทหารเป็นเหมือนปลาขาดน้ำไม่ได้(****)นี่ผมอ่านจับประเด็นหรือHidden Point ในความหมายเชิงสัญญะแผนที่ในประวัติศาสตร์แผนที่โลก(และสยาม) กรณีต่อมาที่ผมเขียนย่อๆ ในแง่การเขียนeco สไตล์ของเขา นิยายอิงกับเรื่องอดีตประวัติศาสตร์เยอะ ทั้งรายชื่อนักเขียน นักปรัชญา(Kant,เดการ์ต ฯลฯ) ทฤษฎี,ภาษาคณิตศาสตร์ และแผนที่อย่างย่อๆ ด้วย(ดูภาพประกอบ*****)
อย่างไรก็ดี ผมกล่าวจบได้จินตนาการมาจากนิยายดังกล่าวอาจจะเขียนเพิ่มก็ได้ ซึ่งผมเล่าผ่านMap เป็นแผน หรือการวางแผนสำหรับผม ทั้งหมดตีความใหม่มโนทัศน์ประวัติศาสตร์การสร้างตัวตน ผ่านMap.
*Umberto Eco – The Role of the Reader : Explorations in the Semiotics of Texts
**อ่านแล้วเกิดความคิดใหม่อ้างที่มาจากการหนังสือ

ภาพผมกับหนังสือของeco
***เปรียบเทียบกับหนังสือแผนที่ แผนที่ทางในประวัติศาสตร์โลกและสยาม(แผนที่โลกพุทธศาสนา/แผนที่ไตรภูมิ:จักรวาล) กล่าวถึงยุคกลาง….ในระยะเวลานี้ยังมีการคัดลอกแผนที่ “ตามพระคัมภีร์”…อาดัมกับเอวาฯแบบเดียวกับรูปในนิยายของeco
ดูเพิ่มเติมการรีวิวหนังสือ(ภาพหน้าปกเป็นลูกโลกและแผนที่)
Best book club: Foucault’s Pendulum
https://benjilachkar.com/2012/02/29/best-book-club-foucaults-pendulum/
Table of contents(สารบัญเนื้อหาของเล่มฉบับที่ผมสะสมไม่มีแบบนี้)
https://books.google.co.th/books?id=jbpsQD0khY0C&pg=PT8&hl=th&source=gbs_selected_pages&cad=2#v=onepage&q&f=false
****ผมเคยเขียนเรื่องนี้แล้ว

โดยผมใส่อ้างอิงเพิ่ม จากนิยาย ดูbooks.google ครับ
https://books.google.co.th/books?id=_JJOBAAAQBAJ&pg=PA124&lpg=PA124&dq=foucault+pendulum%2Blike+fish&source=bl&ots=NEV3k3aRGh&sig=RTi9T3Ep4F3jPjbmlQMcBrg1FxY&hl=th&sa=X&ved=0ahUKEwjFxdyJm5DMAhXMEpQKHRjIAMMQ6AEIHjAA#v=onepage&q=foucault%20pendulum%2Blike%20fish&f=false
*****นิยายใช้ทั้งสัญญะวิทยา สัญศาสตร์และการเปรียบเปรย(Allegory) ในงานของAlfred Korzybski วาทะ “The map is not the territory”.
https://en.wikipedia.org/wiki/Alfred_Korzybski
ดูเพิ่มเติมMap–territory relation
https://en.wikipedia.org/wiki/Map%E2%80%93territory_relation
2 สิงหา
นายกทหารฯ ออกทีวีในวันศุกร์ อีกแล้ว ผมอยากพูดซ้ำข้อถกเถียงดีเบตเรื่องไม่Free ไม่Fair กับเรื่องประชามติไม่เป็นธรรม ควรจะไม่ใช่รัฐบาลเผด็จการทหารเป็นผู้อยู่เบื้องหลังประชามติ ไม่ว่าข้อกังวลเรื่องโกงประชามติ เป็นข่าวหลายเรื่องไม่เว้นแม้แต่ลิงกับประชามติ นี่เป็นเรื่องที่น่าคิด สำหรับผู้สนใจศาสตร์อนุมานก็บ้านเมืองจะวุ่นวาย
ผมกะจะเก็บตัวออกจากยุทธภพวุ่นวาย อุปมายุทธภพโลกจริงและโลกเสมือนเฟซฯเป็นภาพยนตร์(*)ไม่กล่าวถึงเรื่องการเมืองประชามติ(**) กะจะรอผลประชามติออกมาหลัง7 สิงหาแล้ว(โพสต์เฟซฯแต่โผล่มาแล้วก็กลับไปเก็บตัวต่ออีก) จริงๆ ตอนนี้เห็นกระแสวาทกรรมโดยพูดซ้ำๆฝ่ายรัฐ(ทั้งRoad mapฯลฯ) ทำให้ผมไม่ได้คาดหวังชนะเหมือนฝ่ายรัฐ(ผู้นำฯลฯ) โดยผมโหวตอย่างคนรู้แพ้รู้ชนะ
สถานการณ์บ้านเมืองสะท้อนให้เราเรียนรู้จากบทเรียนได้จากตัวแบบต่างประเทศ ทั้งอังกฤษ ที่มีประชามติที่ผ่านมาด้วย หรือ ตุรกี ที่มีการรัฐประหาร เป็นต้น
กรณีเฉพาะเจาะจงยุทธศาสตร์ที่น่าคิดของอเมริกา ต่อประเทศของตนเอง คือ ยุทธศาสตร์(strategy)ของฮิลลารี คลินตัน ชูความหวังเรื่องสตรี มีบทบาท และความหวัง ในแง่Hopeสานต่อของโอบามา ตอนขึ้นมาดำรงตำแหน่งใหม่ๆ ในแง่หนึ่งผมคิดถึงที่ผมเคยเขียนอ้างไว้แล้วดังกล่าวนั้น กรณีของยุทธศาสตร์ของทรัมพ์ คือ อารมณ์ของfear กลัวเสียจ๊อบ คนอพยพ ก่อการร้าย ฯลฯ ด้วย
ฉะนั้น ฝ่ายรัฐทหาร เสนอยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี แล้วฝ่ายประชาชนจะเสนอสู้ทางยุทธศาสตร์ต่อไป
*https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1360132454015979&set=a.103468286349075.7792.100000577118415&type=3&theater
**https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1356925901003301&id=100000577118415
(ภาพประกอบแผนที่ผลประชามติปี2550)
7 สิงหา
สังคมแห่งความหวัง(*)
ราตรีสวัสดิ์ พักผ่อนหลับตาจินตนาการอนาคตกาล สู้ต่อไป
*ผมไปประชามติและสังเกตการณ์มาด้วยภาพประกอบแผนที่
และเรื่องเล่าที่เคยเขียนไปแล้ว ครับ(โผล่มาเขียนสั้นๆแล้วตามที่บอกไว้ไปเก็บตัวออกจากยุทธภพต่อ)

16.2 สิงหา
ถ้าสังเกตการเขียนของผมหยุดพักเขียนเรื่องการเมืองมาพักหนึ่ง ทั้งที่เขียนเรื่องการเมืองอย่างต่อเนื่องถึงประชามติ(*)ในแง่วุ่นวาย ต่อมาเหตุระเบิด ทีนี้ถ้าจำกันได้ผมเน้นศาสตร์การอนุมาน (อังกฤษ: inference) เป็นการคาดคะเนตามหลักเหตุผล ที่แบ่งออกเป็นแบบหลัก ๆ 3 อย่างคือ
การอนุมานแบบนิรนัย (deductive inference) เป็นการสรุปผลจากข้อตั้งหรือข้ออ้างที่เป็นจริงหรือสมมุติว่าจริง โดยเหตุผลหลักทางตรรกศาสตร์ หรือการสรุปผลว่าเป็นจริง
การอนุมานแบบอุปนัย (inductive inference) เป็นการสรุปนัยทั่วไปจากข้อมูลที่สังเกตได้ การอนุมานเชิงสถิติ (statistical inference) เป็นการสรุปผลหรือนัยทั่วไป จากข้อมูลตัวอย่างทางสถิติ (**)
เมื่อหลักความสมเหตุสมผล (validity) ของการอนุมาน เป็นเรื่องสำคัญ และผมเห็นว่าผลกระทบของเรื่องร่างรัฐธรรมนูญมาเป็นประเด็นที่ผมสมเหตุสมผลด้วย(***) แน่ละ ความเศร้า ต่อประเทศไทย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมคิดปมปริศนา ถ้าประเด็นภาคใต้ร่างรัฐธรรมนูญเรื่องศาสนา(ฯลฯ) ทำไม ดูเหมือนไม่มีกลุ่มติดอาวุธใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์(****) โดยปมปริศนานี้ไม่มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายสากลอ้างฯผมร่วมวิเคราะห์จากอ่านข้อมูลต่างๆ(*****) รวมทั้งการวิเคราะห์เรื่องบีอาร์เอ็น กับพื้นที่ชายแดนใต้
อย่างไรก็ตาม สมมติฐานที่ว่ายุทธศาสตร์ และยุทธวิธี เช่น ชนบทล้อมเมืองของบีอาร์เอ็น ก็จะเปลี่ยนไปด้วยในการโจมตีครั้งนี้ แล้วแนวทางสันติภาพได้โดยรัฐไทยปัจจุบัน นายกฯทหารสร้างสันติภาพไม่ได้(******)
โดยสรุป ผมไม่ได้เห็นด้วยตามแนวก่อการร้ายสากล และข้อมูล ข้อเท็จจริง ในความเป็นจริง คือ ประวัติศาสตร์ของเหตุขัดแย้งก่อนหน้าประชามติ มาถึงช่วงเวลาหลังประชามติ และ12 สิงหา กลุ่มคลื่นใต้น้ำในไทย มีเป้าหมายส่งผลกระทบต่อคสช. ด้วย
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1367618303267394&id=100000577118415

**ดูเพิ่มเติม วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99
***หลัง12 สิงหา ปีที่แล้วถ้าจำได้ข่าวระเบิด และผมโพสต์เฟซฯเกือบโดนไปด้วยจากการขี่จักรยานแล้วตำรวจ ทหารโผล่มาถ่ายรูปผมไม่เกี่ยวกับระเบิดเลย ด้วย ครับ
(การวิเคราะห์โดยการอนุมานอาจจะผิดก็ได้ เพราะผมถูกอาจจะเดือดร้อนไม่เกี่ยวผมเลย และผมไม่ใช่เชอร์ล็อคโฮมส์ หรือนักถอดรหัสแบบหนังถอดรหัสลับดาวินชี ฯลฯ ที่สามารถตามจับคนได้)
****รอยเตอร์ตีข่าว “อาเดม” พลิกลิ้นคดีระเบิดราชประสงค์-อ้างถูก “ทรมาน” ให้รับสารภาพ
16 กุมภาพันธ์ 2559 09:51 น. (แก้ไขล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2559 10:59 น.)
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000016780
วินาศกรรมเศรษฐกิจภาคใต้ “คาร์บอมบ์เซ็นทรัลสมุย-ไฟไหม้สหกรณ์สุราษฎร์ฯ” รับวันสงกรานต์
11 เมษายน 2558 00:38 น. (แก้ไขล่าสุด 12 เมษายน 2558 09:37 น.)
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041923
ระเบิดเซ็นทรัลสมุย-สหกรณ์โคอป ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่พังงาเพลิงไหม้ซุปเปอร์ชีป (ชมคลิป)
11 เมษายน 2558 01:06 น. (แก้ไขล่าสุด 11 เมษายน 2558 10:04 น.)
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041925
(ผมเคยกล่าวถึงเรื่องนี้แล้วปีที่แล้ว โดยเขียนขยายความเปรียบเทียบกับปัจจุบันการระเบิดเชิงสัญลักษณ์สถานที่สำคัญๆ เช่น ตรัง คือ พื้นที่อดีตนายกฯชวน)
*****ผู้เชี่ยวชาญการก่อการร้าย วิเคราะห์ 3 กลุ่ม เข้าข่าย”ระเบิด-เผา”หลายจว.ใต้
http://thaienews.blogspot.com/2016/08/3.html
ต่างประเทศ | ไทยกับโลก
สื่อนอกตั้งข้อสันนิษฐานเหตุบึ้มหลายจุดในไทย อ้างนักวิเคราะห์ชี้อาจเป็นฝีมือฝ่ายการเมืองที่แพ้ประชามติ
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000080555
นายกฯ ขอคนไทยร่วมมือขจัดคนไม่ดี อย่าตระหนกเหตุระเบิด ลั่นจะล่าตัวคนร้ายอย่างสุดความสามารถ
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000080563
(ผมเขียนโดยรวบรวมข้อมูลหลายคน)
******ข้อมูลเพิ่มเติมลองค้นหาดูเพิ่มเติม กรณีบีอาร์เอ็น…ก๊อบปี้โครงสร้างพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) มาออกแบบ “ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี” หรือ “บีอาร์เอ็น”แบ่งเป็นฝ่ายการเมือง กองกำลัง และแนวร่วม
บีอาร์เอ็น จัดตั้ง “กองกำลังติดอาวุธปลดแอกอิสลามปัตตานี” ทำสงครามจรยุทธ์ ตามแนวทางชนบทล้อมเมือง เหมือนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)….
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/pracha/20130308/493861/%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%9A.html
ดูหนังน่าสนใจCSI Miami หนังซีรี่ย์ส์สืบสวน
16.3
ผมกลับมาทบทวนความคิดหลังจากที่ได้เดินทางไปลำพูน ถึงเรื่องในอดีตที่เคยเขียนช่วงเวลา17 มีนา ปีนี้ คือ ผมสนใจบทความ RIDDLES OF YELLOW AND RED(*) อันใหม่ ที่เผยแพร่ในNLR ที่มีบางคำนึกถึงที่อ.เบน เคยคุยกับผม ทางอีเมล์กับกรณีตัวอย่างเรื่องคนขับแท็กซี่คุยเรื่องสามก๊กอ.เบน เลยเปรียบกับคนจีนในไทยเคยฟังที่เชียงใหม่ ยังอ่านไม่ละเอียดก็ตาม
เมื่ออ.เบน เป็นเด็กเขาชอบอ่านนิยายเชอร์ล๊อก โฮมส์ และเรียนรู้ว่า เมื่อคุณค้นหาทางแก้ปัญหาไม่มองสิ่งที่คุณสามารถมองเห็น จงมองที่คุณไม่สามารถเห็น…
นี่แหละเป็นเรื่องน่าสนใจ ทำไม เปรียบเป็นสามก๊ก สัญญะ คือสงคราม และถ้าหนุมาน สัญญะ คือ สงคราม แล้วไทยแลนด์จะหยุดสงคราม
ทั้งนี้ ผมไม่ได้เป็นลูกศิษย์โดยตรง กระทั่งละม้ายคล้ายกับลักษณะศิษย์อาจารย์ในนิยายกำลังภายในของจีน(**) แด่วันสันติภาพ
*RIDDLES OF YELLOW AND RED
https://newleftreview.org/II/97/benedict-anderson-riddles-of-yellow-and-red
“เบน แอนเดอร์สัน”เล่าตำนาน”สามก๊ก”จากปากแท็กซี่…
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1296530671
**สำนวนอ.เสกสรรค์ ที่เป็นลูกศิษย์อ.เบนเล่าเรียนอยู่9ปีผมเล่าย่อ ในตอนอารมณ์ตะวันตกของหนังสือวิหารที่ว่างเปล่า
19 สิงหา
“โจทย์ท้าทายแก้ปัญหา”
โจทย์ไม่น่าไว้ใจกับกระบวนการจับกุมสอบสวนต่อจิ๊กซอว์ ปะติดปะต่อเรื่องเงื่อนปมค้นหาว่าจัดฉาก(ฯลฯ)ท้าทายความสามารถของคสช. ซึ่งบทความที่ผมคิดว่าน่าสนใจในแง่ตรรกศาสตร์ของการอนุมาน :-…ปฏิบัติการนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนหน้านี้ ตามที่อ้างในบทวิเคราะห์หลายชิ้น ที่ว่าได้แก่ จ.ภูเก็ต หน้ารามฯ (กรุงเทพฯ) และเกาะสมุย (จ.สุราษฎร์ธานี) เป็นฝีมือบีอาร์เอ็น ก็ไม่น่าจะถูกต้อง หรือถ้าถูกก็ถูกไม่หมด…
..โจทย์ข้อสำคัญที่สุดคือ ก่อเหตุแล้วหนีไปไหน ถ้าหลบพักอยู่แถวจุดเกิดเหตุย่อมตกเป็นเป้าการกวาดจับทันที เพราะต้องไม่ลืมความจริงว่า ทันทีที่ระเบิดดังขึ้น คนกลุ่มแรกที่จะโดนตำรวจกวาดจับหรืออย่างน้อยก็ถูกเพ่งเล็งคือคนสามจังหวัดที่ไปทำงานตามเมืองที่เกิดระเบิด…
…ทำไมบีอาร์เอ็นต้องขยายพื้นที่ปฏิบัติการในปีนี้ ซึ่งขึ้นปีที่ 13 ของการต่อสู้แล้ว (นับจากวันปล้นปืนปี 47) หากต้องการขยายพื้นที่ปฏิบัติการ ทำไมไม่ขยายมาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะในปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่มีเหตุรุนแรงมากที่สุดในรอบ 12 ปีไฟใต้ คือ 1,669 เหตุการณ์ (นับเฉพาะเหตุความมั่นคง) มีระเบิดเกิดขึ้น 471 ครั้ง (เฉลี่ยมากกว่าวันละ 1 ครั้ง) สูงสุดในรอบ 12 ปีเช่นกัน (ที่สำคัญปีนั้นมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในรัฐบาลทหารคล้ายๆ กับปีนี้ แต่ปีนั้นคะแนนรับร่างฯกลับชนะขาด คือ ปัตตานี 72.2% นราธิวาส 73.4% ยะลา 69.6%)
คำถามที่น่าคิดก็คือ บีอาร์เอ็นจะขยายพื้นที่ปฏิบัติการไปเพื่ออะไร ในเมื่อตนเองไม่ได้ประกาศความรับผิดชอบหลังก่อเหตุอยู่แล้ว หนำซ้ำยังเสี่ยงจะถูกตีความปฏิบัติการว่ามาจากเหตุปัจจัยอื่น เช่น การเมือง อย่างที่กำลังเป็นอยู่นี้ด้วย
นักวิเคราะห์บางท่านที่มองว่าการไม่ประกาศความรับผิดชอบ คือ จุดแข็งของบีอาร์เอ็น แต่ถ้ามองมุมนี้จะพบว่า มันกลายเป็นเหตุผลที่อ่อนลงไปทันทีที่จะสนับสนุนว่าทำไมบีอาร์เอ็นต้องปฏิบัติการนอกพื้นที่ (เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ประกาศว่าเขาทำ) แต่ถ้าปฏิบัติการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนฯ ถึงไม่ประกาศก็รู้ว่าเขาทำ…จริงๆ แล้วยุทธวิธีที่บีอาร์เอ็นใช้ในการสู้รบตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เก่งกว่าทหาร แต่ที่เขาปฏิบัติการประสบความสำเร็จ เพราะเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของเขาเอง เป็นบ้านของเขา และมีเครือข่ายรองรับ (อ่านเอกสารหลายๆ ฉบับของโรงเรียนเสธ.จะทราบ) ขณะที่ทหารถูกส่งไปจากต่างถิ่น ต่างภูมิภาค ไม่เข้าใจสภาพพื้นที่ จึงย่อมเสียเปรียบเป็นธรรมดา…(*)
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลายโจทย์ ที่สำคัญอย่าจับผิดตัว(**) และผมเขียนมาต่อเนื่องว่าผมไม่ใช่เชอร์ล็อคโฮมส์(***) แต่นายกฯทหารน่าจะพิจารณาตัวเอง 1.ยกเลิกมาตรา44 ใช้ไม่ได้ผล 2.รับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งคืนความสุขสงบให้คนไทย
*ดูข้อมูลเพิ่มเติม:ระเบิดป่วนภาคใต้ฝีมือบีอาร์เอ็นจริงหรือ? http://www.isranews.org/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B2/item/49212-brn_49212.html
ย้อนรอยระเบิดนอกชายแดนใต้ ระวังโจทย์ใหม่ส่งออกมือป่วน
…ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือน เม.ย.58 แม้กลุ่มผู้ก่อการจะเป็นคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบทั้งหมด แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นก็มีกลิ่นของการเมืองเจือปนอยู่ไม่น้อย
http://www.isranews.org/south-news/scoop/item/49267-outside_49267.html
ระเบิดป่วน 7 จังหวัดใต้โยง “ทีมปัตตานี”… โจทย์ที่ต้องตีให้แตกในขณะนี้ คือ “ทีมระเบิด” ทำงานให้ใคร เป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นขยายพื้นที่ปฏิบัติการออกนอกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่มีบางฝ่ายชูประเด็น หรือเป็นการรับจ้างจากกลุ่มการเมืองกันแน่….ปัญหาคือกระบวนการทำงานลักษณะนี้มีการ “คัตเอาท์-ตัดตอน” จนทำให้ยากที่จะสาวถึงตัวคนบงการ งานนี้จึงถือเป็นงานพิสูจน์ฝีมือฝ่ายความมั่นคงอย่างแท้จริง….
http://www.isranews.org/south-news/south-slide/item/49283-team_49283.html
**ข่าวการจับกุมต่างๆ ดูเพิ่มเติม
http://prachatai.org/journal/2016/08/67519
(อาจจะเขียนต่อเรื่องผลกระทบหลังประชามติ)
***หนังสือคิดแบบ เชอร์ล็อค โฮล์มส์
…การใช้ตรรกะและการอนุมาน รวมถึงการรวบรวมและกลั่นกรองข้อมูล…
(มีฉบับเสียงทางยูทูป)

ผมเขียนมาต่อเนื่องเรื่องการเมือง ครับ
24 สิงหา
ผมออกเดินทางถ่ายรูป ประกอบการอ่านหนังสือระหว่างทางเรื่องยอดนักสืบเก้าอี้นวม คดีกริ่งประตูดัง โดยผมเรียบเรียงมาเล่าสั้นๆจากคำนำเสนอของหนังสือนักสืบเก้าอี้นวม เป็นตระกูลหนึ่งของวรรณกรรมรหัสคดี ที่นักสืบจะไม่ย่างกรายเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ แต่จะไขปริศนาด้วยข้อมูลที่ได้อ่านหรือฟังอีกทอดหนึ่ง(*) ตัวอย่างแรกดูแป็งนักสืบ สามารถคลี่คลายปริศนาการหายตัวไปลึกลับของหญิงสาวคนหนึ่งจากการอ่านบทความในหนังสือพิมพ์ และตัวอย่างจากเชอร์ล็อค โอมส์ที่กล่าวถึงพี่ชายของเขา ว่าถ้าศิลปะของการเป็นนักสืบขึ้นต้นและลงท้ายด้วยการทบทวนเหตุผลจากเก้าอี้นวม หรือตัวอย่างจากเรื่องชายชราในมุมห้องคลี่คลายปริศนาที่ผู้สื่อข่าวนำข้อมูลมาให้เขาที่นั่งอยู่ในร้านอาหาร หรือตัวละครฉายาเครื่องจักรนักคิดอย่างศ.ฟาน ดูเซิ่น ที่เป็นนิยายมีผู้ช่วยเป็นผู้สื่อข่าว มีตัวอย่างเรื่องสั้นและนิยายอื่นๆ (รวมทั้งหนังสือยอดนักสืบเก้าอี้นวมฯ)
ส่วนเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ผมเล่าย่อๆ ผ่านลิ๊งค์คนรีวิว :การสืบสวนของเนโร วูลฟ์ กับผู้ช่วยของเขาอาร์ชี่ กู๊ดวิน ที่มีเศรษฐีนีที่ชื่อ เรเชล บรูเนอร์ มาว่าจ้างให้สืบเรื่องที่เธอแจกหนังสือเกี่ยวกับเอฟบีไอ และหลังจากนั้นก็ถูกสะกดรอย ซึ่งคิดว่าเป็นเอฟบีไอ ด้วยค่าจ้าง หนึ่งแสนดอลล่าร์ และเมื่อสืบสวนไปก็ได้เชื่อมโยงอีกคดีหนึ่งที่มีคนถูกยิงตาย และตำรวจเจ้าของคดีคิดว่าเกี่ยวกับเอฟบีไอด้วย เนื่องจากคนตายกำลังเขียนเรื่องของเอฟบีไออยู่…ต้นฉบับได้หายไป…(**)
*บทเรียนจากการอ่านเชิงวิเคราะห์ ในแง่การวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง

สถานการณ์การเมือง
08:54น. 24 ส.ค. 2559
เกิดเหตุระเบิด 3จุดป่วนเมืองปัตตานี คาร์บอมบ์หน้ารร.เซาท์เทิร์นวิว บาดเจ็บจำนวนมาก
http://www.pptvthailand.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/33225
(ผมได้เขียนเรื่องการเมืองมาต่อเนื่องแล้ว)
**ดูการรีวิวหนังสือเพิ่มเติมได้ตามลิ๊งค์ ครับ
http://wanwopo.blogspot.com/2013/04/blog-post_9.html
The Doorbell Rang
เร็กซ์ สเต๊าต์
http://readery.co/9789742112042
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ershiyi&month=02-12-2010&group=6&gblog=14
วันเวลาผ่านหลังครบรอบ 10 ปี รหัสลับดาวินชี แดน บราวน์ เปิดให้โหลด E-book ฟรี
http://hilight.kapook.com/view/83654
http://www.danbrown.com/wp-content/themes/danbrown/assets/db_dvc_book_excerpts.pdf
28.2
มรดกวัฒนธรรม มรดกประวัติศาสตร์ มรดกความรู้:ศาสตร์การอนุมานสืบสวน ซึ่งบันทึกนึกขึ้นมาเขียนไว้นักวิชาการ กับนักเขียน ในแวดวงนี้ มีความคล้ายกันอยู่อย่างหนึ่ง เท่าที่ผมนึกออกมาจากบางคนพื้นฐานรักการอ่านหนังสือ และถ้าใครอ่านหนังสือฝรั่งหรือหนังสือใหม่ๆ ที่ใครไม่ได้อ่าน มาคุยถึงหนังสือดังกล่าว ทำให้ผมนึกถึงหนังสือที่เคยเล่าแล้วเล่าซ้ำขยายความอ่านเพิ่มยังไม่ละเอียดหนังสือ A Cultural History of Causality: Science, Murder Novels, and Systems of Thought(ผมไม่แปลคิดคำแปลสละสลวยสวยงามไม่ได้)
เพราะผมไม่มีเล่มจริงๆไม่มีเงินซื้อหนังสืออ่าน ดูแค่ทางเน็ตเห็นการอ้างอิงจากโน้ตในแต่ละบท เช่น งานเขียนของน้องชายอ.เบน แอนเดอร์สัน(แพรรี่ แอนเดอร์สัน :กำเนิดหลังสมัยใหม่) ต่อมาบรรณานุกรม งานเขียนของดอสโตยอฟสกี้ งานเขียนของeco งานเขียนเกี่ยวกับเชอร์ล็อคโฮมส์ของโคนัน ดอยด์ ซึ่งคนเขียนหนังสือนี้ คือ Stephen Kern นักประวัติศาสตร์ ด้านวัฒนธรรม ในความเข้าใจของผม ดูเพิ่มเติมข้อมูลของเขา สอนอยู่ที่อเมริกา(*)
วิธีการเปรียบเทียบดังกล่าวของการศึกษา ที่ผมว่าน่าสนใจมุมมองเปรียบเทียบไทย ในงานอ.เบน ที่นำเสนอเรื่องMURDER AND PROGRESS IN MODERN SIAM(หรือบทความอ.เบน ที่เกี่ยวกับเชอร์ล็อคโฮมส์ที่ผมเคยเล่าแล้ว**)ผ่านหนังเรื่องมือปืน เป็นตัวอย่างหนังมีที่มาเกี่ยวกับบริบททางสังคมของการสร้างหนัง เปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์วัฒนธรรมระบบความคิดเกี่ยวกับฆาตกรรม(Murder)ในนิยาย เป็นที่มาจากการแต่งเรื่องขึ้นจากสังคม ทำให้ผมคิดเรื่องข้อมูลวิธีประวัติศาสตร์น่าจะมีงานดีๆ วิเคราะห์ข้อมูลข่าวลวงหรือข่าวจริง ข่าวเจาะเชิงลึกทั้งแหล่งที่มาข่าวนสพ. เอกสารหลักฐาน รวมทั้งศาสตร์การอนุมานอย่างนิยายสืบสวน ที่ผมเคยเขียนไว้แล้ว(***)
โดยสรุป มรดกวัฒนธรรม มรดกประวัติศาสตร์ มรดกความรู้:ศาสตร์การอนุมานสืบสวน น่าจะมีมุมมองงานเขียนน่าสนใจในอนาคตด้วย
*https://history.osu.edu/people/kern.193
https://comparativestudies.osu.edu/people/kern.193
ผมเคยอ่านThe Culture of Time and Space: 1880-1918ที่อ.สมเกียรติ ตั้งนโม แปลฯส่วนหนึ่งของหนังสือนี้
ธรรมชาติของเวลา : The Nature of Time
http://v1.midnightuniv.org/midnight2545/document9714.html
โดยที่มีเรื่องเวลากับผลงานสร้างสรรค์ศิลปะ
http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=688&Itemid=99999999&limit=1&limitstart=0
http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=688&Itemid=99999999&limit=1&limitstart=1
ส่วนตัวผมเคยอ่านส่วนหนึ่งในเน็ตของหนังสือ Eyes of Love: The Gaze in English and French Paintings and Novels 1840-1900 ซึ่งผมเคยโพสต์ในเฟซบุ๊ค ที่ผมเล่ามาทบทวนความทรงจำ แล้วเกิดอาการติดนิยายจากเซอร์ล็อคโฮมส์(จากรูปตัวบทของหนังสือ)
(ภาพประกอบหนังสือกับตัวบท และโน้ตที่น่าสนใจด้วย)
** MURDER AND PROGRESS IN MODERN SIAM
N L R I/181, May-June 1990
“ฆาตกรรมกับความก้าวหน้าในสยามยุคใหม่” (1990) เบนได้กลิ่นฆาตกรรมไม่ชอบมาพากลจากการดูหนังเรื่อง มือปืน ซึ่งกระตุ้นให้เขาเริ่มวิเคราะห์เปรียบเทียบเหตุฆาตกรรมทางการเมืองของสยามในห้วงเวลาต่างๆ
(ที่มาจากหนังสือศึกษารัฐไทย ย้อนสภาวะไทยศึกษา โดยเบเนดิกท์ แอนเดอร์สัน)
MURDER AND PROGRESS IN MODERN SIAM ถูกรวมอยู่ในหนังสือ
The Spectre of Comparisons: Nationalism, Southeast Asia, and the World
โดย Benedict Richard O’Gorman Anderson
(ภาพประกอบบทความเป็นหนังเรื่องมือปืน)
งานเขียนซับซ้อนของอ.เบน ที่ผมเคยเล่าไปแล้วเรื่องปริศนาเหลือง แดง ก็อ้างเรื่องMurderฯ เป็นต้น ส่วนตัวอย่างการวิเคราะห์บทความของอ.เบน ที่เล่าเรื่องเชอร์ล็อคโฮมส์…เมื่อผมกลายมาเป็นนักวิชาการและครูสอนหนังสือ สิ่งแรกที่ผมบอกนักศึกษาก็คือ : “จงมองสิ่งที่อยู่ต่อหน้าคุณ แต่คิดถึงสิ่งที่ขาดหายไป” โดยดูเพิ่มเติมการวิเคราะห์ของลูกศิษย์อ.เบน
“กระบวนท่ากบกระโดดครั้งสุดท้ายของครูเบ็น” (ตอนต้น) โดย เกษียร เตชะพีระ
“กระบวนท่ากบกระโดดครั้งสุดท้ายของครูเบ็น” (จบ) โดย เกษียร เตชะพีระ
(ภาพประกอบบทความปริศนาเหลือง แดงกับเชอร์ล็อคโฮมส์)
***ผมเขียนต่อเนื่องเปรียบเทียบกับนิยายในเรื่องปัญหาระเบิดภาคใต้ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1383502351678989&id=100000577118415
28.3
ผมคิดถึงภาพที่ผมถ่ายไว้ในอดีต ยามฤดูร้อน ณ หอสมุด ผมค้นพบการเปรียบเทียบยุคของการเข้าถึงหนังสือเก่า ผ่านอินเตอร์เน็ต กับการเข้าห้องสมุด แตกต่างกัน ถ้าหาอ่านหนังสือทางเน็ตหนังสือวิธีสืบสวนฯหนึ่งร้อยปี แล้วหนังสือเล่มนี้(*)
*การอุปมาการสืบสวนกับจับปลาฯ และกรณีอั้งยี่ ฯลฯ

การสะสมทุน ความรู้ ความทรงจำ Indy และในหลวง

1 ตุลา
1 ตุลาคม เหมา เจ๋อตง ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน กลายเป็นวันชาติจีน+วาทะ(เกี่ยวกับปลา)Dont give a child a fish but show him how to fish (*) เหมาฯ ในอดีตเรียนเป็นครู
3 ตุลา วันชาติเกาหลี ที่มีสัญลักษณ์ลัทธิเต๋า สื่อถึงปลาในธงชาติ โดยเต๋า กับวาทะ”หาปลามาให้กินหรือจะสู้สอนวิธีจับปลาให้”…โดยการยกเรื่องปลาเป็นตัวอย่าง เพื่อนๆลองนึกดูนะครับ ถ้าเราเจอคนๆนึงหิวมากๆ เราเอาปลาให้เขากิน วันนี้เขาอาจจะอิ่ม แต่พรุ่งนี้เขาก็ต้องหิวใหม่ เราก็ต้องหาปลามาให้เขากินทุกๆวัน ถ้าเราไม่อยู่แล้ว เขาก็จะไม่มีปลากินอีกต่อไป ก็ต้องหิวตาย แต่ถ้าเราสอนวิธีหาปลาให้เขา ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยู่แล้ว เขาก็สามารถจับปลามากินได้เอง ไม่มีทางอดตาย…(**) เมื่อผมจำได้เคยฟังรายการเดินหน้าประเทศไทย เรื่องการศึกษาไทย มีอยากเป็นอย่างเกาหลีใต้เรื่องStem(***) กับการศึกษาไทย
เราจะได้ดีไหม? หรือผมคิดถึงการสะสมความรู้ สะสมความทรงจำ รวมทั้งการเปรียบเปรยความรู้เรื่องปลาที่ผมเขียนไปแล้ว(****)
*Read more at: http://www.azquotes.com/quote/387867
ผมเคยเขียนเรื่องเหมาฯ และเพิ่มเติมคำคม…Revolutionaries must live among the people like fish in the water…



** http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jingji&date=25-09-2013&group=8&gblog=11
***http://www.stemedthailand.org/?page_id=23
****การสะสมความทรงจำ การสะสมความรู้ ที่เขียนไว้แล้ว เช่น
“คนของเยอะไม่เห็นเป็นอาจารย์กัน”
การสะสมความทรงจำ(accumulating memory)
ผมเคยไปเกาหลีใต้มาแล้วดูลิงค์เก่า ภาพประกอบที่คิดจะทำคลิปไว้ยังไม่มีเวลาทำคลิป ครับ

3.2
ภาพแผนที่โบราณในสมุดภาพไตรภูมิฉบับกรุงศรีอยุธยา เปรียบเทียบกรุงธนบุรี คือ ภาพความแตกต่างของการหายไปของเรือฝรั่ง และเรือจีน ที่ชายจีนทรงผมหางเปีย(?) และ(ฯลฯ) ในยุคสมัยเดินเรือการค้า ไม่ใช่เดินเรือทำสงคราม(?*) หรือข้อสังเกตภาพสะท้อนการสะสมของความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่จำนวนมากในสาขาการต่อเรือ การเดินเรือ(an accumulation of technological innovations in the fields of shipbuilding )…(**)
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1398066350222589&id=100000577118415
**ผมเขียนเรื่องนี้แล้ว
6 ตุลา
6ตุลา(40ปีแล้ว) รำลึก ที่มีการสืบเนื่องหกตุลา ในภาพ หกปีผ่านไป มีผมเป็นผู้พูด และหลายคน รวมทั้งผู้ฟัง(*) โดยตอนนั้นผมกล่าวถึงเชิงพื้นที่ภูมิศาสตร์ของภาคเหนือ เน้นนักศึกษาภาคเหนือจากความทรงจำทางประวัติศาสตร์การต่อสู้ และการสะสมความรู้ ความทรงจำจากหนังสือหลายเล่ม
โดยผมอยากกล่าวใหม่ถึงเป็นประเด็นมรดกตกทอดของคนรุ่นหกตุลา มาสู่ทุนนิยมไทยในปัจจุบัน(ความเหมือนและความต่างการต่อสู้*) และผมเป็นคนรุ่นหลังหกตุลา สะสมความรู้มาเป็นที่ระลึก อุปมาปลาเล็กปลาน้อยรวมตัว อย่ายอมถูกกินเหมือนข่าวป.ปลา ประวิตร กินไข่ปลาคาเวียร์
*ผมเคยเขียนมาแล้วพร้อมภาพประกอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับปลา


**ภาพประกอบในอดีตหกปีก่อนผ่านไปกับหกตุลา(วิทยากรจำเป็นอย่างผมต้องด้นสดอีกแล้ว)https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1565490291548&set=t.100000577118415&type=3&theater
มีผู้คนที่เพิ่งเสียชีวิตเคยร่วมกิจกรรมกัน หลากหลายทั้งคนทำคลิป หรือ ลุงยิ้ม ตาสว่าง ที่เราเคยร่วมกิจกรรมรำลึกไว้ที่นี้ด้วยจากการเจอกันครั้งสุดท้ายงานศพพี่ดีเจต้อม(ฯลฯ) ที่ผมบันทึกสะสมความทรงจำไว้
6.2
เมื่อวานกับวันนี้มีงานบางมุมเกี่ยวกับสื่อ ทำให้คิดเขียนถึงเดือนที่แล้วโดยบังเอิญผมสนทนาหลายเรื่องกับศ.ดร.ด้านปวศ.คนหนึ่ง เล่าเน้นกล่าวถึงข้อเสียเฟซบุ๊คอย่างเยอะกับความสัมพันธ์ต่อคน ผมก็บอกไปว่าอ.เบน ไม่ชอบให้ลูกศิษย์เล่นเฟซบุ๊ค จากที่เคยคุยกัน ฯลฯ ในที่สุดอ.ปวศ. บอกให้ผมเลิกเล่นเฟซบุ๊ค แต่ว่าผมลืมบอกไปว่าผมมีหน้าที่อีกด้าน
เมื่อผมต้องเป็นแอดมินเพจเครือข่ายแรงงานภาคเหนือด้วย เลิกไม่ได้ ต้องไปบอกกล่าวทั้งกลุ่มก่อน ฯลฯ และแล้วผมกลับมาทบทวนอ่านอ.เบน ในหนังสือชุมชนจินตกรรมฯ นสพ.(กุญแจสู่ทางปัญญา)สื่อสารสร้างสัมพันธ์ร่วมกับผู้อ่าน ที่เกิดชุมชนจินตกรรมโดยธรรมชาติ(ผลจากทุนนิยมการพิมพ์) โดยผมสรุปมาเขียนสั้นๆ เชิงเปรียบเทียบกับเฟซบุ๊ค หรือการทำนสพ. หรือเพจ มีทีมงานด้วย
10 ตุลา
หลายวันก่อน ผมบังเอิญเจอรุ่นพี่นักเขียนหญิง คนหนึ่ง ซึ่งไม่เจอกันนานหลายปี
รุ่นพี่บอกขอเฟซบุ๊ค แทนขอเบอร์โทร ต่อมารุ่นพี่ดูเฟซฯถามถึงหนังสือVirgin Man ที่ผมโพสต์ในเฟซฯ ว่าเขียนร่วมกันสองคนเขียนอย่างไรเหรอ ผมคิดในใจจะโม้ว่าโอ้วิธีเขียนแบบโพสต์โมเดริน์ ล้ำยุคมากๆ เมื่อสิบปีก่อน แล้วผมก็พูดความจริงไปตามแผนที่วางไว้ไอเดียอัน1 คือ เขียนตามแบบตลาดหนังสือขายดียุคนั้น กิ๊กกะจิ๊บ เขียนหักหลังผู้ชาย 2.กาละแมร์ เขียนขายดีตอนนั้น คือ ผู้ชายเลวกว่าหมาฯ(แล้วรุ่นพี่ก็หัวเราะผมบอกจะให้ฟรีหนึ่งเล่มแถมให้เจ้าของร้านวันนั้นด้วย แต่ผมลืมบอกว่าผมใช้เฟซฯน้อย)
และแล้วผมกลับมาคิดอินดี้ เป็นการสร้างส่วนผสมของงานนิยายสูตรของสองเรา
ขายไม่ดีอย่างผม กลับมาทบทวนตัวเอง โคตรอินดี้ของแท้โดยไม่ได้ตั้งใจ(ฮร่า) ไม่ตามความต้องการของตลาด(ฮร่า) ที่จริงแล้วมีคำนิยม ที่เสมือนกระจกส่องนักเขียนในสี่คน
ที่ผมยกตัวอย่างมาแค่หน้าคู่นี้ก่อน(จริงๆเพิ่งกลับมาอ่านในปีที่10ชอบตรงคนหนึ่งบอกว่านิยายเชิงสืบสวนสอบสวนแล้วอย่างนี้ในอนาคตจะมีคนมาศึกษานิยายของผมเหมือนงานของKernไหมหนอ?*)
*”As a history of science and ideas, Kern’s study succeeds brilliantly. Gathering the disparate knowledge systems of nearly two centuries into discrete categories, Kern produces a taxonomy of causality that is cogent and convincing. . . . From Enlightenment positivism to quantum discontinuity; from religion to existentialism, and phrenology to cybernetics; from Freud to Nietzsche to Foucault, and from Darwin to Durkheim to Derrida: Kern ranges comfortably (and profitably) among them all. Specialists and novice alike will find much hereto learn and admire.”–Peter Okun, American Historical Review
ผมเขียนเปรียบเทียบเรื่องA Cultural History of Causality: Science, Murder Novels, and Systems of Thought. งานของKern มาเรื่อยแล้วลองย้อนกลับไปดูได้ตามลิ๊งค์ ครับ
มรดกวัฒนธรรม มรดกประวัติศาสตร์ มรดกความรู้:ศาสตร์การอนุมานสืบสวน

10.2
ประวัติศาสตร์การเกิดขึ้นของกระดาษ มีส่วนประกอบของfishing nets หรือแห/อวนจับปลาของไช่หลุน(*) ผู้เป็นชาวจีนต้นกำเนิดให้พัฒนาการกระดาษ(**) มาสู่การพิมพ์อย่างกูเตนแบร์กได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์ตัวพิมพ์ที่ถอดได้ขึ้นในยุโรป ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจากการพิมพ์แบบบล็อกที่ใช้กันอยู่ในขณะนั้น เมื่อรวมส่วนประกอบต่าง ๆ ดังกล่าวเข้าด้วยกันในระบบการผลิตแล้ว เขาได้ทำให้การพิมพ์อย่างรวดเร็วเป็นไปได้ และทำให้ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของยุโรป ต่อมายุคของการพิมพ์หนังสือในฐานะทุนนิยมแพร่กระจายต่อไปพร้อมชาตินิยมทางภาษา เป็นเรื่องที่อ.เบน อ้างอิงไช่หลุน กูเตนแบร์กต่อเนื่องจากประวัติศาสตร์ของหนังสือใน The Coming of the Book: The Impact of Printing 1450-1800(***) โดยหนังสือขายดีเป็นที่ยอดนิยมดูภาพประกอบหน้าปกหนังสือ เห็นภาพสื่อการขายหนังสือเป็นสินค้า(เปรียบเทียบไม่ใช่หนังสือขายไม่ดีอินดี้อย่างหนังสือThe Virgin Man55555)
*ไช่ หลุน
ผลิตกระดาษจากเปลือกไม้ เศษปอ เศษผ้า และเศษอวน(fishnet)
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B9%88_%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%99
Cai Lun Biography
http://www.simonandschuster.com/books/Cai-Lun-The-Creator-of-Paper/Li-Jian/9781602209961
ตำนานเรื่องความรักกับกระดาษ ซึ่งผมไม่รู้ว่าจริงหรือไม่
ลองค้นดูไช่หลุน ขันทีมีรัก-ยอดนักประดิษฐ์
ตำนานรักมหาขันที – ไช่หลุน – ผู้เปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกไปตลอดกาล
**ประวัติศาสตร์กระดาษโลก (Paper: An Elegy)
…ชีวิตของเราผูกพันกับกระดาษตั้งแต่เกิดจนตาย ทั้งสูติบัตร มรณบัตร บัตรประชาชน ทะเบียนสมรส โฉนดที่ดิน พาสปอร์ต ฯลฯ จินตนาการของเราถูกสร้าง “บน” กระดาษ “ผ่าน” กระดาษ “ด้วย” กระดาษ เหมือนที่ยอดจิตรกร เลโอนาร์โด ดาวินชี สร้างงานผ่านกระดาษนับพัน …(เรื่องกระดาษน่าอ่าน)
http://readery.co/9786167885124-black
***The Coming of the Book: The Impact of Printing 1450-1800
เนื้อหา
The Introduction of Paper into Europe
The Technical Problems and their Solution
Its Visual Appearance
The Book as a Commodity
The Little World of the Book
The Geography of the Book
The Book Trade
The Book as a Force for Change
https://books.google.co.th/books/about/The_Coming_of_the_Book.html?id=9opxcMjv4TUC&redir_esc=y
วันที่ 10 ตุลาคมในไต้หวันเป็นวันดับเบิลเท็น (Double Ten Day) วันชาติของสาธารณรัฐจีน ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงและมาเก๊า ในช่วงไม่กี่วันก่อน มีกระแสโจชัว หว่องมาเมืองไทยแล้วมีปัญหานักเคลื่อนไหวอายุน้อย ที่ทำการปฏิวัติร่มจากฮ่องกง ซึ่งผมเคยไปที่นั่นมาก่อนหกปีผ่านไป(2010-16) และผมเคยเขียนข้อสังเกตไว้เล็กๆน้อยๆ ต่อมาผมทบทวนประเด็นสถานการณ์หรือเหตุการณ์สร้างวีรบุรุษขึ้น(ปัจจัยจัดตั้งฯลฯ*) แต่ไทยแลนด์ ผมนึกถึงเจอรุ่นพี่เสนอให้นักศึกษาไทย เลียนแบบตั้งพรรคฯ ซึ่งการจัดตั้งพรรค ปัจจัยอะไรบ้างโดยเปรียบเทียบกับฮ่องกง(ปัจจัยฯลฯ)หรือข้อเสนอเก่าเล่าใหม่ที่ผมเคยเขียนไปแล้วการรวมตัวของผู้ปฏิบัติงานอย่างแข็งขัน กับปัญญาชน และชนชั้นนำปัญญาชนร่วมทำพรรค(**)
ส่วนผมก็เสนอไปแล้วในกลุ่มจะตั้งพรรค โดยนโยบายไม่ใช่ประชานิยม ประชารัฐ นโยบายผมเป็นรัฐสวัสดิการ และกระจายความเท่าเทียมจากกดขี่แรงงานเชิงผลกระทบต่อพื้นที่ชายแดนเขตเศรษฐกิจพิเศษ กรณีแม่สอด จ.ตาก(อนาคตเชียงราย เชียงของ ฯลฯ) โดยการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ทางขอบเขตของพื้นที่ ซึ่ง“มีการพัฒนาอย่างไม่เท่าเทียม” ตามการพัฒนาแบบทุนนิยม ซึ่งกล่าวได้ว่ามันเป็นผลที่ต่อเนื่องตามมาของความเป็นสมัยใหม่นิยมของผลกระทบการพัฒนา(***)
โดย สรุปแล้วผมนึกถึงกลุ่ม(****) และข้อเสนอส่วนตัวทางเลือกการพัฒนาทางเศรษฐศาสตร์การเมืองไว้เป็นมรดกFor Thailand.
*“โจชัว หว่อง” จาก “ฮ่องกง” ไม่ถึง “ไทย”
** E.P.Thompsonในเรื่องThe Making of the English Working Class

(ผมเขียนมานานแล้วเรื่องเชื่อมโยงกับอีพีทอมสัน(มรดกMarx)พร้อมภาพประกอบซ้ำและผมย้ำการสร้างคนงานฯ ในแง่ดังกล่าวรวมตัวเป็นพรรคโดยอ.เกษียร)

(คลิป-คำต่อคำ) เกษียร: เปิดตัวหนังสือ “มาร์กซ: ความรู้ฉบับพกพา”
…ผมทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก เรื่อง Commodifying Marxism การทำลัทธิมาร์กซให้เป็นสินค้า พูดถึงลัทธิมาร์กซในเมืองไทยหลังสงครามโลก…
http://prachatai.com/journal/2015/05/59323
(ดูคลิปตอบคำถามกล่าวถึงมรดกMarx ด้วย)
***ไอเดียที่มาหนังสือPostmodern Geographies: The Reassertion of Space in Critical Social Theory โดย Edward W. Soja(ลองหาพีดีเอฟอ่านหรืออ่านบางบทได้ในลิ๊งค์)
https://books.google.co.th/books?id=xrmaSYfLOQ8C&pg=PA43&hl=th&source=gbs_toc_r&cad=3#v=onepage&q&f=false
โดยข้อมูลผมอ้างฉบับแปลบทSpatailizations: Marxist Geography and Critical Social Theory
กระบวนการสร้างพื้นที่: ภูมิศาสตร์เชิงมาร์กซิสต์ และทฤษฏีสังคมเชิงวิพากษ์ (๑)
http://v1.midnightuniv.org/midnighttext/0009999897.html
Spatailizations: Marxist Geography and Critical Social Theory
กระบวนการสร้างพื้นที่: ภูมิศาสตร์เชิงมาร์กซิสต์ และทฤษฏีสังคมเชิงวิพากษ์ (๒)
http://v1.midnightuniv.org/midnighttext/0009999896.html
Edward Soja นักภูมิศาสตร์หลังสมัยใหม่เสียชีวิตปีที่แล้ว
https://en.wikipedia.org/wiki/Edward_Soja
จากที่ผมเคยได้กล่าวถึงหนังสือมรดกของแมนเดล ไปแล้ว มีมรดกตกทอดงานของแมนเดลถึงนักคิด Sojaด้านภูมิศาสตร์อีกด้วย(กรณีเจมส์สันได้นำเอาแนวคิดการตีความของแมนเดลในหนังสือ ระบบทุนนิยมตอนปลาย (Late Capitalism)การพัฒนาที่เกิดขึ้นในเชิงภูมิศาสตร์แบบไม่สมดุล ถ้ามีโอกาสว่างเขียนต่อไป ส่วนตัวผมเล่ามุมมองเชิงเปรียบเทียบแมนเดล เชื่อมโยงคนงานกับพรรคฯเขียนไปแล้ว ครับ)
****หลายประเด็นหลังประชามติ ที่น่าพิจารณาในอนาคต อาจจะเขียนถึงไม่ว่านายกฯคนนอก,รัฐบาลผสม หรือพรรคเล็กพรรคน้อย(เตรียมตั้งพรรคสำหรับไอเดียผม)และอื่นๆ
(รวมลิ๊งค์เก่าเปรียบเทียบไทยกับจีน ฮ่องกง ไต้หวัน วันที่1 ตุลากับ10ตุลา2014)
วันที่ 1 ตุลาฯ เป็นวันชาติจีน

วันที่10 ตุลาhttps://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=926649374030958&id=100000577118415
(ภาพประกอบผม ณ ฮ่องกง กับภาพธงของจีนฯห้าเชื้อชาติใต้หนึ่งสหภาพ – วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/ห้าเชื้อชาติใต้หนึ่งสหภาพ)
15.2
ผมเคยเปรียบเทียบการศึกษา ในแง่เรื่องเต๋า สอนจับปลา ที่ว่าคนที่เป็นพ่อ แม่ หรือว่า ครูบาอาจารย์ เวลาลูกๆหรือว่านักเรียนเจอปัญหา ก็อย่าเพิ่งเสนอวิธีแก้ปัญหาให้โดยตรงนะครับ ลองสอนให้เขาคิดดูก่อนว่าควรจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไง ต่อไปเขาก็จะได้คิดเองเป็น แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองเป็น(*)
โดยผมเคยอยากเขียนเรื่องการศึกษาต่อ ในแง่หนึ่งอีกนิด เพราะผมเคยคิดอยากไปเรียนที่ฮ่องกง น่าสนใจมหา’ลัยโอเพน ที่โจวชัวหว่องเรียน เป็นการศึกษาคล้ายม.ราม ตามความเข้าใจง่ายๆของผม(ม.ราม บางคนเรียนด้วยตัวเองแล้วไปสอบ) ดูจากวิกิพีเดียประวัติมหา’ลัยนี้ และบางคนเคยเปรียบเทียบการศึกษาไทยกับฮ่องกงไว้….ทำให้ผมยกตัวอย่างฮ่องกง ใช้งบประมาณให้กับการศึกษา สูงมาก…ปรับการศึกษา โดยเน้น ให้เด็กที่จบมอสามไปเรียนต่อและทำงานสมัยใหม่ ในสถาบันวิชาชีพ ที่เน้นการทำงานและสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องเรียนต่อมอปลาย เด็กมอสามที่เรียนสายอาชีพ สามารถทำงานและเรียนในระดับมหาวิทยาลัยไปพร้อมๆกันได้สำหรับเด็กที่กำลังเรียนมอปลาย ก็มีการส่งเสริมให้ค้นหาตนเองให้เร็วที่สุด
เพราะก่อนหน้านี้เด็กส่วนใหญ่ที่นี่เรียนเพื่อสอบแข่งขันเหมือนบ้านเรา และจะมีปัญหาตอนเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยเพราะเรียนต่อเนื่องมาแบบไม่รู้ว่านั่นคือสิ่งที่ตนเองถนัดหรือไม่(**)
ดังนั้น ปัจจัยที่1การสอนเชิงอุปมาจับปลาเป็นcritical thinking และผมคิดถึงมุมองการศึกษาในเชิงเปรียบเทียบไทยกับฮ่องกง หรือ ช่วงก่อนมีดราม่าการศึกษาญี่ปุ่น(หลักสูตร,การสอนนศฯลฯ) ไปเรียนแล้วดีกว่าการศึกษาไทย หรือญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ที่เรียนหนักแข่งขันกันสูงคนเรียนเครียดฆ่าตัวตาย ก็มีกลับกันเปรียบเทียบปัจจัยที่2ว่านศ.ญี่ปุ่น นศ.เกาหลีใต้ขยันกว่านศ.ไทย ทำให้ผมคิดถึงเพื่อนร่วมรุ่นเรียนป.โท ที่ทำวิทยานิพนธ์เรื่องการศึกษาของเวียดนามอะไรสักอย่างที่ไทยอาจจะตามหลังเวียดนามแล้วก็ได้ อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญ คือ นศ.เวียดนาม ขยันกว่าไทย และผมมีภาพตอนเราไปมหา’ลัยเวียดนาม ตอนนี้ผมหาเจอแค่มหา’ลัยฮ่องกง(***)
*http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jingji&date=25-09-2013&group=8&gblog=11
**การศึกษาของฮ่องกงในรูปแบบ “งานสร้างคน”
https://blog.eduzones.com/training/146046
การศึกษาไทย กับดราม่าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นน่าจะมีอีกมากด้วย
(ภาพประกอบCritical thinking สำคัญอุปมาปลา)
***ภาพมหา’ลัยฮ่องกง
15.3
หนังสือPostmodernism, Or, The Cultural Logic of Late Capitalism(หลังสมัยใหม่ หรือตรรกะวัฒนธรรมของทุนนิยมตอนปลาย)
โดยผู้เขียนอย่างJameson พินิจพิจารณามองดูหลังสมัยข้ามมุมมองกว้างขวางทั้งภูมิทัศน์ จากศิลปะชั้นสูงถึงศิลปะระดับล่างจากอุดมการณ์ของตลาด ถึงสถาปัตยกรรม ภาพวาด(ภาพกรีดร้องอย่างที่ผมทำภาพประกอบ ฯลฯ) ภาพยนตร์พั๊งค์ และวิดิโออาร์ต รวมถึงวรรณกรรม(ดูเพิ่มเติม*)
ทั้งนี้ ผลงานหนังสือเล่มนี้ของJameson เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นต่อErnest Mandel กับLate capitalism (**) ในแง่งานศิลปะ และวรรณกรรม นับว่าน่าสนใจกับปัญหาทุนนิยมตอนปลาย โดยFredric Jameson ถูกจัดเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรม และการเมืองทฤษฎีมารกซิสม์ ถ้าดูอิทธิพลรับจาก Erich Auerbachและส่งอิทธิพลต่อPerry Anderson ยกตัวอย่างAuerbachที่เชี่ยวชาญวรรณกรรมอ.เบน อ้างในชุมชนจินตกรรมฯ ซึ่งเจมส์สันนักคิดหลังสมัยใหม่(ทฤษฎีทางวัฒนธรรมศึกษา) เป็นที่รู้จักจากการวิเคราะห์เทรนด์วัฒนธรรมร่วมสมัย(***) นั่นเอง
*ตัวอย่างหนังสือhttps://books.google.co.th/books/about/Postmodernism_Or_The_Cultural_Logic_of_L.html?id=oRJ9fh9BK8wC&redir_esc=y
หนังสือพัฒนาการมาจากบทความในNLR
https://newleftreview.org/I/146/fredric-jameson-postmodernism-or-the-cultural-logic-of-late-capitalism
**Ernest Mandel กับLate capitalism และFredric Jameson
https://en.wikipedia.org/wiki/Late_capitalism
(ทุนนิยมตอนปลาย อาจจะสรุปสั้นๆว่า การวิเคราะห์ขาลงใกล้จบสิ้นของทุนนิยม)
ผมเคยเขียนเรื่องหนังสือมรดก Ernest Mandel

The Legacy of Ernest Mandel
โดย Gilbert Achcar
https://books.google.co.th/books?id=_0K6_7NYMGYC&pg=PA261&lpg=PA261&dq=Ernest+Mandel&source=bl&ots=tXW2ZauKjV&sig=P6BpdwsgkUcl_MyhD1ZO0r_i1Cs&hl=th&sa=X&ved=0ahUKEwiPgdjImc_PAhUJK48KHUVcBhYQ6AEIZjAJ#v=onepage&q=Ernest%20Mandel&f=false
Ernest Mandel
https://www.marxists.org/archive/mandel/
ดูเพิ่มเติม
Ernest Mandel: A Passionate Optimistic Marxist
https://www.solidarity-us.org/node/2560
***https://en.wikipedia.org/wiki/Fredric_Jameson
(ผมเขียนถึงJameson ไปนิดหน่อยแล้ว)
15.5
ผมเล่าเรื่องหนังรักสองเรื่องควบ เรื่องที่หนึ่ง ในแง่การตีความต่อหนัง about timeความสามารถย้อนเวลาได้ แต่ไม่สามารถทำให้คนมารักได้ คือ ชะตาฟ้าลิขิต? หรือเราไม่สามารถรู้ได้ว่าไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกันเป็นอุปมาของCausality ดั่งว่ามีพระเจ้าที่มองไม่เห็นกำหนดมาแล้ว ส่วนหนังเรื่องที่สอง เป็นการตีความที่ผมคิดไม่ถึงจากการตีความในหนังรักเรื่อง Begin Again …เดฟคนที่เธอเห็นบนเวทีอาจจะเป็นตัวตนจริงๆ ของเขาอยู่แล้ว แต่เป็นเกรตต้าเองที่ไม่เคยรู้ และบางที วันเวลาก็อาจจะไม่ได้ ‘เปลี่ยนแปลง’ คนเราไปจริงๆ แต่มันแค่ค่อยๆ ‘เปิดเผย’ ตัวตนที่แท้จริงของเขา…
อาจจะคล้ายที่ว่า หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
18 ตุลา
การพัฒนาการประมงตามพระราชดำริ มิใช่เพียงเท่านั้น พระองค์ยังทรงสนพระราชหฤทัยต่อการศึกษาค้นคว้าในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปลาอยู่เสมอมา เช่น การรักษาพันธุ์ปลาบางชนิดมิให้กลายพันธุ์ไป โดยขอให้ดำเนินการด้านพัฒนาพันธุกรรมเพื่อรักษาต้นพันธุ์ไว้ด้วย มิใช่เป็นการผลิตเพื่อนำไปปล่อยอย่างเดียว เป็นต้น หรือในกรณีที่ปลาบางชนิดซึ่งเป็นปลาที่หายากและมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนลดน้อยลงจนอาจสูญพันธุ์ได้ เช่น ปลาบึก ซึ่งเป็นปลาในสกุล Catfish ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีอยู่แต่เฉพาะในแม่น้ำโขงเท่านั้น ก็ทรงห่วงใยในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และทรงให้ค้นคว้าหาวิธีการที่จะอนุรักษ์พันธุ์ปลาชนิดนี้ไว้ให้ได้…
https://web.ku.ac.th/king72/2533/fishery02.html
18.2
เมื่อการเปรียบเทียบการศึกษาดราม่า ยกตัวอย่างอย่าหลงประเด็น เรื่องระบบการศึกษาของญี่ปุ่น ที่ท่านกำลังเข้าใจอยู่”พ่อขอโทษที่ปลูกข้าวผิดนา”….ยาวมาก
โดยผมจับประเด็นเขาจะพัฒนาตนเองได้ก็เช่นกัน
ไม่ใช่เอาเกรดของประเทศโน้นนี้มาชี้วัด ได้เกรดดี แต่เอาเข้าจริง portfolioแย่ critical thinkingไม่สมเหตุผลก็มีเยอะ..(*)
การสอนเชิงอุปมาจับปลาเป็นcritical thinking และผมคิดถึงมุมองการศึกษาในเชิงเปรียบเทียบไทยกับฮ่องกง โดยผมรายละเอียดต่ออีกนิด คือ Text หรือตำราเรียน
กรณีฮ่องกง ก็เป็นปัญหาในการเรียน ซึ่งโจวชัวหว่อง เคลื่อนไหวได้สำเร็จ หรือการเปรียบเทียบวิธีการศึกษาผ่านตำราเรียนเวียดนามเพื่อนผมก็เคยศึกษาอย่างที่กล่าวไปแล้ว และแนวทางศึกษาตำราเรียนของไทย ก็เคยมีคนศึกษาไว้แล้วเช่นกัน(**)
ทั้งนี้ ย้อนกลับมาปัจจัยอื่นๆ ยกตัวอย่างผมเคยถามคนไทยเคยเรียนที่เกาหลีใต้ตอบว่านศ.ขยัน…จบ(ภาพประกอบเกาหลีใต้คลิปที่ยังไม่ได้ขยันทำของผม)
*อย่าหลงประเด็น…
http://pantip.com/topic/35003533
**ผมเคยเปรียบเทียบการศึกษา
18.3
เป็นหนังเกี่ยวกับเวลา(Time)เราไม่สามารถรู้ได้ว่าปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของเขาและเธอ เกิดจากเวลา ทำให้เผยตัวตนที่แท้จริง หรือไม่ (อาจจะเป็นทั้งสองอย่างคู่กันในเวลานั้น) แล้วไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกันเป็นอุปมาของCausality ดั่งว่ามีพระเจ้าที่มองไม่เห็นกำหนดมาแล้ว(*)
*ผมเล่าเรื่องหนังรัก…
22 ตุลา
“…ความบังคับตนเองนั้นเกิดขึ้นได้จากความรู้สึกระลึกได้ว่า อะไร เป็น อะไร หรือเรียกสั้นๆ ว่า สติ…”
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๒๐)
22.2
“หากเราใช้แนวทางพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะต้องให้เบ็ดตกปลาแทนการให้ปลา เพราะฉะนั้นวันนี้การศึกษาคือสอนให้จับปลาคือหมายถึงให้เรียนรู้ตัวเองเป็น และรู้จักจับปลาที่หลากหลายไม่ใช่จับชนิดเดียวกินแล้วก็เบื่อ ก็รู้อยู่ที่ผ่านมาเขาแจกอะไรกันบ้าง แจกอย่างนี้ก็ติดอยู่แบบนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว(*)
“ขอให้ยึดคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แจกเบ็ดตกปลา ไม่ใช่แจกปลา เพื่อสอนให้คนได้รู้จักวิธีหากิน ขณะเดียวกัน ขอให้ครูให้ความสำคัญกับกระบวนการมุ่งเน้นที่ผลสัมฤทธิ์ ไม่ใช่ขอเกรดเพียงอย่างเดียว มุ่งเน้นการสอนให้เด็กนำไปใช้อย่างมีเหตุผล นำไปสู่การค้นหาคำตอบ ไม่ใช่การเติมคำในช่องว่าง จะได้ไม่เกิดปัญหาการโกงข้อสอบ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว(**)
*งดเชลียร์! งานพบเพื่อนครูสั่งแค่ปรบมือ “ประยุทธ์” อัดพวกร้องเท่าเทียม ปล่อย “ค้ายา-ฆ่าคนตาย” หรือ?
13 พฤษภาคม 2559
http://www.manager.co.th/qol/ViewNews.aspx?NewsID=9590000048427
**นายกฯ ย้ำ การทะเลาะเบาะแว้งยังไม่ยุติ ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย
2016/05/13
http://www.tnamcot.com/content/467269
(พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมใหญ่ “นายกรัฐมนตรีพบเพื่อนครู” จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ)
22.3
การศึกษาขยายความเปรียบเทียบเพิ่มเติมนิดๆ ต่อจากครั้งที่แล้ว ในฮ่องกง กรณีโจว ชัวหว่อง ผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวการศึกษาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเปิด(Open University*) เคยกล่าวไว้ผมไม่เคยเป็นนักเรียนท็อป
ซึ่งประเด็นการศึกษาช่วงก่อน ก็มีคนแชร์กันมากเรื่องเปรียบเปรยปลาปีนต้นไม้ อ้างคำกล่าวของไอนสไตน์ โดยการศึกษาเป็นประเด็นที่ทำคลิปแปลเป็นไทยว่าผมฟ้องร้องการศึกษา(คนแชร์กันเยอะ**) แน่ละปัญหาการศึกษา มีอยู่ทั่วโลก
ทั้งนี้ การเปรียบเทียบระหว่างประเทศ ในตัวอย่างหลายเรื่องของคลิป ซึ่งสำหรับผมความสำคัญอยู่ที่ทักษะcritical thinking ด้วย(***)
อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลายอย่างของการศึกษา ในกรณียกตัวอย่าง สื่อการสอนครูไทยทำคลิปตามกระแสโซเชียล แปลเพลงPPAP เป็นต้น
http://www.scmp.com/news/hong-kong/article/1572475/scholarism-leader-accepted-politics-programme-open-university?page=all
(ผมได้เขียนเรื่องการศึกษาและฮ่องกงไว้ ตามลิ๊งค์ )
**ผมขอฟ้องร้องระบบการศึกษา
***10 skills you need to thrive tomorrow – and the universities that will help you get them
10 ทักษะอันดับสูง ในปี2020(เปรียบเทียบกับปี2015)
1.แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน
2. critical thinking
3.ความคิดสร้างสรรค์
ฯลฯ
https://www.weforum.org/agenda/2016/08/10-skills-you-need-to-thrive-tomorrow-and-the-universities-that-will-help-you-get-them?utm_content=buffer6357d&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer
(ภาพประกอบเกี่ยวกับความคิดวิพากษ์และปลากับต้นไม้ โดยคำคมของไอน์สไตน์)
22.4
ผมเคยเขียนถึงหนังหลายเรื่องของหว่องกาไว มาหลายครั้ง น่าจะรวมแล้วเกือบร้อยกว่าหน้า มั้ง
เป็นการสะสมความทรงจำ และวันเวลาจากหกปีที่ฮ่องกง กลับมาเขียนเปรียบเทียบหามุมมุมมองใหม่ อีกครั้ง(*Love is all a matter of timing. It’s no good meeting the right person too soon or too late.)
โดยหนัง2046 (พระเอกเขียนนิยาย**)มีเรื่องซ้อนซ่อนอยู่ในนัยยะหนังสั้นThe Hand(สร้างปีเดียวกับหนัง2046) ช่างตัดชุดกี่เพ้าสำหรับสตรี อยู่กับการสร้างสรรค์ความหมายของชุด เป็นผู้วัดรูปร่างรูปทรงให้เธอที่เป็นที่รัก หากอุปมาเรือนกาย… ในความทรงจำเราต่างเคยเจ็บปวดเดียวดาย ณ.สถานที่บางแห่ง เขา-เราล้วนตกวังวนอดีต เหงาหงอยเศร้าสร้อย ว้าเหว่ซึมลึกห้วงหัวใจ เรา-เขาต่างพบเจ็บปวด ร่วมกันในความทรงจำ เขา-เราหลบลี้หนีหาย จวบจนวันสุดท้าย และตลอดกาล(จากหนังสือThe Virgin Man)
*ผมยังคิดถึงฮ่องกงในหนังของหว่องกาไว…

**ภาพประกอบและข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บ
27
“ภาพน้ำ” : แบบอุดมคติโบราณถึงปัจจุบัน(*)
ภาพประกอบฝีพระหัตถ์ของพระองค์ โดยทรงใช้คอมพิวเตอร์วาดภาพแสดงเส้นทางเดินเรือของพระมหาชนก รวม ๔ ภาพ คือภาพวันที่ควรออกเดินทาง ภาพวันเดินทาง ภาพวันที่เรือล่ม รวมทั้งแผนที่ฝีพระหัตถ์ แสดงสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองโบราณบางแห่งและข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับทิศทางลม โดยมีแผนที่อากาศแสดงเส้นทางพายุจริงๆ และภาพพระมหาชนกทรงว่ายน้ำ โดยมีนางมณีเมขลาเหาะอยู่เบื้องบน เป็นต้น กับกำหนดวันเดินทะเลตลอดจนจุดอัปปางของเรืออับโชค ทรงคาดคะเนโดยอาศัยข้อมูลทางโหราศาสตร์ แสดงถึงพระปรีชาในด้านอักษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์และโหราศาสตร์ไทย(**)
*ภาพจาก หนังสือ คุยกับงานช่างไทยโบราณ
**http://oknation.nationtv.tv/blog/theloveofmylife/2012/11/28/entry-2
27.2
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไม่มีเวลาเขียนเรื่องการศึกษาเพิ่มเติม(*) แต่ข้อมูลมีอีกเยอะดูลิ๊งค์ต่างๆ ทั้งเรื่องการศึกษาทางเทคโนโลยี โซเชียลและยกตัวอย่างคำคม
Critical thinking…the awakening of the intellect to the study of itself.(**)
*ผมเขียนมาแล้ว
27.4
หนัง2046(สร้างปี2004) โดยพระเอกเขียนนิยายตัวละครหนุ่มญี่ปุ่นในนิยาย…ที่ต้องการตามหาความทรงจำและความ “ไม่เปลี่ยนแปลง”… (*) มีเรื่องที่เหมือนคู่ขนานในหนังสั้นThe Hand ซึ่งผมนำชื่อหนังของเขามาเรียบเรียงดัดแปลงเป็นภาษาไทย น้ำตาหยาดหยดร้องไห้ สัมผัสมือในอารมณ์เพื่อความรัก สุดท้ายเพียงเถ้าธุลีแห่งวันเวลา (As Tears Go By,The Hand,In the Mood for Love ,Ashes of Time**)…เปรียบเปรยในเรือนจำของความทรงจำผ่านหนังสือThe Virgin Man(***)…ฉันอ่านหนังสือให้เธอฟัง คอยสัมผัสจับมือให้เธอ…จูงเธอไปที่ต่างๆ ไม่ว่าจะรับสายลม แสงแดดอัสดง ดวงดาว เสียงคลื่น ใบไม้ร่วง…อ่านหนังสือ…อัดเทป…ให้เธอฟัง…คอยถือไม้เท้า…พาเธอขึ้นรถเมล์…เธอเขียนตัวอักษรบนฝ้ากระจกรถเมล์…จับมือร่วมกับเธอสัมผัสหนังสืออักษรเบรลล์…จำได้ว่าผมเคย จับมือเธอสัมผัสหนังสืออักษรเบรลล์…แต่ตอนนี้ ผมเดินมาถึงสุสาน เห็นหลุมศพเธอ… วางแว่นสายตาทิ้งไว้…พรุ่งนี้และวันวาน ความรู้สึกคล้ายกับอยู่ในแก้วน้ำใสใส่น้ำ ขึ้นหรือลง เต็มหรือพร่อง…
*https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1445036135525610&set=a.103468286349075.7792.100000577118415&type=3&theater
(หว่องกาไว ไม่เคยเรียนมาจากโรงเรียนภาพยนตร์ แต่เรียนรู้หนังในการดูหนัง I’m not coming from film school, I learned cinema in the cinema watching films.Wong Kar-wai
http://www.azquotes.com/author/30396-Wong_Kar_wai)
**ถ้าหนังIn the mood for loveพระเอกเขียนนิยายกำลังภายในให้เดาว่าพระเอกต้องเขียนออกแนว Ashes of Time ตัวละครจอมยุทธ์ใกล้ตาบอด จนกระทั่งตาบอดแล้วตายดีกว่าตายทั้งเป็น และยกตัวอย่างอีกจอมยุทธ์ ผู้ดื่มเหล้าลืมความทรงจำ ที่เสียคนรัก
***ผมเขียนเรื่องThe Virgin man และการเปรียบเปรยกับหนัง2046

31
พระราชกรณียกิจในด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่สำคัญยิ่ง และนับว่าอำนวยประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยทั่วทุกภูมิภาคคือ พระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงปลานิล ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้น้อมเกล้าฯ ถวายปลาทิโลเปีย นิโลติกา (Tilapia Nilatica) จำนวน ๕๐ ตัว แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน ๕๐ ตัว เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปล่อยลงเลี้ยงในบ่อบริเวณสวนจิตรลดาพระราชวังดุสิตและต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดบ่อเลี้ยงปลานิลเพิ่มขึ้นอีก ๖ บ่อ และได้ทรงย้ายปลานิลจากบ่อเดิมไปเลี้ยงในบ่อใหม่ด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๘ ต่อมาได้พระราชทานชื่อปลานี้ว่า “ปลานิล”
https://web.ku.ac.th/king72/2542-04/page02.html
31.2
เหตุผลทางเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่บิ๊กตู่น่าจะช่วยสนับสนุนพัฒนาเกษตรกรให้เอื้อกับเทคโนโลยีเรื่องข้าว ยกตัวอย่างญี่ปุ่นดังรูปที่ผมเคยโพสต์แล้ว(*) เนื่องจากประยุทธ์เคยพูด…รัฐต้องคิดว่าจะดูแลเกษตรกรอย่างไรเหมือนกับลักษณะการให้เบ็ดไปตกปลา โดยรัฐเป็นคนสอนวิธีตกปลาให้ ไม่ใช่หาปลาให้เขาเลย…(**)
ดังนั้น การอุปมาอุปไมยของบิ๊กตู่เอง และปัญหาเกษตรกร หรือหลายปัญหายกตัวอย่างรัฐธรรมนูญจุดไข่ปลา นี่ก็มีคนเขียนบทความกรณีรัฐธรรมนูญ2540 (***) อีกผมจะไม่ขยายความมาก แต่ประยุทธ์ และประวิทย์(ไทยไม่เหมือนเกาหลีเหนือและนิยาย1984ปิดประเทศเผด็จการทหารเบ็ดเสร็จ) อย่ามัวพาพรรคพวกไปกินไข่ปลาคาร์เวียร์(****) โดยลืมประชาชนน้ำตาไหลแล้ว
*ผมเคยเขียนปี2014ดูภาพประกอบเพิ่มเติม:ชาวนาญี่ปุ่นยอดไอเดียสร้างศิลปะบนนาข้าวใช้มือถือสแกนสั่งซื้อข้าวได้ทันที
https://www.marketingoops.com/media-ads/video/rice-code/
‘RICE CODE งานศิลปะบนผืนนา’ น่าเสียดายถ้าคนไทยไม่ได้ดู

(ผมเคยเขียนเรื่องชาวนา,ข้าวเชิงศิลปวัฒนธรรมมาแล้ว)
**”บิ๊กตู่” บอกวิธีแก้ปัญหาเกษตรกร ย้ำรบ.ต้องคิดแบบที่ “คนจน” คิด
นายกฯ ย้ำต้องการให้เกษตรกรมีความสุข ใช้ม.44 เพื่ออำนวยความสะดวกแก้ปัญหา ฟุ้งรบ.ยื่นเบ็ดสอนตกปลา อดีตให้แต่ปลากับปชช.
(ภาพประกอบบิ๊กตู่) http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431446986
(ผมได้เขียนมาปลาใหญ่กินปลาเล็ก ในแง่ระบบทุนนิยมผูกขาดฯลฯ)

***ลองค้นหาบทความ “จุดไข่ปลา : ร่องรอยแห่งสำนึกประวัติศาสตร์ในรัฐธรรมนูญ”
****ภาพประกอบการ์ตูนเกี่ยวกับไข่ปลาคาร์เวียร์
31.3
วันที่31 ตุลาเป็นวันปวศ.ไทยในอดีตต่อเดือนตุลา(*) ซึ่งผมยกตัวอย่างวิธีการวิเคราะห์โดยอ.เบน ผู้มีลูกศิษย์เป็นคนเดือนตุลา ทั้ง14 ตุลา และ 6 ตุลาเคยเขียนถึงงานRadicalism After communismฯ(แม่แบบการวิเคราะห์คนเดือนตุลา ในแง่ความเข้าใจของผม) ไว้ก็น่าสนใจในหนังสือThe Spectre of Comparisons: Nationalism, Southeast Asia, and the World แนวทางการวิเคราะห์การเมืองไทยของอ.เบนผ่านวิธีเปรียบเทียบสองมิติ ได้แก่ มิติร่วมพื้นที่-ข้ามเวลา และมิติร่วมเวลา-ข้ามพื้นที่ ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ14 ตุลากับปฏิวัติฝรั่งเศส ในบทความMurderฯ ที่ผมเคยกล่าวไปแล้ว รวมทั้งอ.เกษียร ก็เคยนำมาวิเคราะห์ซ้ำแล้วด้วย(**)
ซึ่งผมอยากทบทวนข้อวิเคราะห์ 1.ตัวตนหรืออัตลักษณ์ 2.เวลา 3.พื้นที่ เช่น ก.คนเดือนตุลาไม่เคยเปลี่ยน ข.คนเดือนตุลาเปลี่ยนไปแล้วหลังป่าแตกถึงหลังปี35(ข้อถกเถียงรวมถึงข้อมูลข้อเท็จจริง***)
โดยวิธีการวิเคราะห์สาเหตุมาเป็นผล มีข้อโต้แย้งอย่างหนึ่ง ที่ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกันเป็นอุปมาของCausality ซึ่งประเด็นที่ตัวตนหรืออัตลักษณ์ ก.(ไก่) คนเดือนตุลาไม่เคยเปลี่ยน(ไม่ว่าเขาจะทำอาชีพ ฯลฯ) ไม่เคยกลับจากซ้ายเป็นขวา ที่จริงวันเวลาไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เพียงแต่พวกเขาเพิ่งเผยตัวตนออกมาทั้งหมดจากที่เราไม่เคยเห็นต่างหาก(****) หรือทั้งสองอย่างร่วมกัน
โดยผมสรุปความเลื่อนไหลของตัวตนหรืออัตลักษณ์ เป็นได้ทั้งสองอย่างประหนึ่งไก่กับไข่คู่กัน ผ่านกาลเวลา สะท้อนเขาเปลี่ยนไป(ตัวบุคคล) หรือเขาไม่ได้เปลี่ยนอุดมการณ์อะไรเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว ดังกล่าว(*****)
*ดูข้อมูลเพิ่มเติม เช่น จดหมายลุงนวมทอง(สื่อถึงอุดมการณ์เดือนตุลา),บทความของผม(ผมเคยทำหนังสั้นด้วย) https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Nuamthong.jpg
http://prachatai.com/journal/2009/10/26334
http://prachatai.com/journal/2010/10/31646
(ตัวอย่างเชิงโครงสร้างการศึกษาคนเดือนตุลา ยกตัวอย่างเปรียบเทียบลุงนวมทอง และน่าสนใจวิธีการเรื่องการศึกษาคนเดือนพฤษภา35 อีกด้วย)
**วันสำคัญทางการเมืองไทยในอดีต
***ข้อมูลที่ผมเคยเขียนไปแล้ว…การสะสมความทรงจำ(accumulating memory)และ6ตุลา

พล็อตหนังสั้นปัญญาชนอิมเมจิ้น

ข้อมูลดูเพิ่มเติมอย่างอ.กนกรัตน์ ทำวิทยานิพนธ์The Rise of the Octobrists: Power and Conflict among Former Left Wing Student Activists in Contemporary Thai Politics
คือ การอธิบายปี1970 มรดกฝ่ายซ้ายรุ่นก่อน ต่อมาตั้งแต่1990 กลุ่มคนเดือนตุลา ไปอยู่พรรคไทยรักไทย จนกระทั่งเกิดกลุ่มเสื้อแดง(วิเคราะห์ประวัติศาสตร์บุคคลนักกิจกรรม นักศึกษาปีกซ้ายเดือนตุลาในการเมืองไทยร่วมสมัย โดยบางคนหลังออกจากป่ามีอาชีพอะไร เช่น คนเดือนตุลานักเขียน ฯลฯ ผมเล่าโดยย่อดูเพิ่มเติมThesis อ้างงานอ.เบนด้วย)
****ไอเดียที่ผมหยิบยืมมาเปรียบเทียบจากคนตีความในหนังรักเรื่อง Begin Again


(ผมเขียนเปรียบเทียบกับหนังรักโดยอาจจะเป็นทั้งสองอย่างเหมือนไก่กับไข่ ที่อะไรเกิดก่อนกัน)
*****ภาพประกอบการ์ตูนต้านเผด็จการทหารยุคตุลา
เกรียงศักดิ์ ธีระโกวิทขจร วิชาการเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลย
ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ จริงๆ ผมไม่ค่อยมีเวลาเขียนวิชาการอะไรมาก แม้อีกด้านอยากหาเวลาตัดต่อคลิปเกาหลีใต้ทำเป็นหนังสั้น ว่าแล้วโฆษณาแฝงทางอ้อมหนังสั้นเกี่ยวกับลุงนวมทอง
31.4
ผมอยากเขียนถึงหนัง2046(*) ซึ่งหนังถูกตีความหลายแบบ หลายมุมโฟกัส แต่ผมคิดมุมหนึ่งเรื่องเวลาของคู่รัก ใช้มุมไทยๆ พวกที่มีคู่น่ะ คือมีเจ้ากรรมนายเวรเขามาตาม นี่ไม่ได้พูดเองนะ ครูบาอาจารย์ท่านพูดกันมาหลายองค์แล้ว(**)
โดยผมคิดอีกมุมเปรียบเปรย…ถ้าหากผมสร้างยานเวลาที่อาจจะไม่ถึงเวลาแท้ที่เป็นนามธรรม แต่ผมก็น่าจะลองทำได้สักครั้งกับความใฝ่ฝันนักประดิษฐ์ อยากลองสร้างสูตร สมการ คณิตศาสตร์ ตัวเลขยกกำลังเพื่อจะมีไทม์แมชชีนแบบโนบิตะ ยานเวลาแบบบ่วงเวลา หรือรูปแบบรูหนอน อุโมงค์ก็ได้ ตามธรรมชาติของจิตใจ คนเราย่อมต้องการคิดคำนึงหวนหาอดีตโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ แต่ใจผมย้อนกลับไปพบเธอเสมอ แม้ไม่มีวัตถุ คือยานเวลาในตอนนี้ และที่รักของผมก็ยังยืนเท่ากับผม และในอนาคตคงไม่มีใครเป็นทาสรักยืนต่ำกว่าใคร ผมเชื่อว่าคนเราจะมายืนเท่าเทียมกันในโลกอนาคต…. อีกวิธีการหนึ่งผมนั่งหนังสือเก่าๆ เช่น อ่าน “หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว”…เมื่อถึงเวลานั้น ก็นึกถึงการหลับฝันถึงเธอ for long time I would go to bed early.(เรียบเรียงปรับปรุงจากThe Virgin Man)
*http://oxygen.readyplanet.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=414952&Ntype=9
(ภาพประกอบจากบทความ)
**https://www.facebook.com/aston27/photos/a.168273396545477.30273.168271843212299/1155141001192040/?type=3&theater
ภาพประกอบคติไตรภูมิเห็นไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า