วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ปรากฏการณ์ของเด็กผู้ชาย บ้า

ปรากฏการณ์ของเด็กผู้ชาย บ้า
Sat, 03/17/2007 - 00:05 | by เปรื่องเดช ผดุงครรภ์, บอย บ้า
โดย บอย บ้า



ยามเย็นสายแดดอ่อนแรงซ่อนเร้นท่ามกลางหมู่เมฆ ผมมาออกกำลังกายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตัดสินใจวิ่งวนอยู่รอบสนามกีฬาดุจวัฏจักรของชีวิต ทว่า รอบสุดท้าย ผมมาพบเขาสภาพศพไม่หายใจ ข้างตัวมีดแหลมเล็ก ปากกา เศษกระดาษลายมือเปื้อนเลือด

ผมอ่านข้อความจากลายมือของเขา

เริ่มจากชื่อเรื่อง ... ปรากฏการณ์ของเด็กผู้ชาย บ้า

...........


ประหลาดที่ทุกครั้งที่สัมผัสเมื่อยามที่สายตาได้อยู่ในที่ตัวเองได้มองเห็นตัวเองอย่างแท้จริงโดยไม่มีกระจก ไม่เคยใส่ใจกับคนรอบข้างที่จะพูดว่าผมเป็นคนอย่างนั้น ดีเลวอย่างไรผมรู้จักผมดีที่สุด  ไม่สนใจว่าใครจะว่าอะไร แต่ก็ประหลาดทุกครั้งที่คนมองผมเป็นตัวประหลาดทั้งที่ความจริงผู้คนยังไม่เคยสัมผัสถึงความประหลาดที่มีอยู่ในตัวตนเลย ทุกครั้งที่ผมเข้าไปค้นตัวเองความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้น ความกลัวทั้งที่ไร้เหตุผล ความจริงที่เห็นทั้งที่ไม่อยากเห็น ความเศร้าในงานรื่นเริง ความเหงาท่ามกลางผู้คน ความรักท่ามกลางความเสียใจ ไม่เหมือนใครในสิ่งที่ตัวเองย่อมแตกต่างแม้จะทำตามคนอื่นไปก็หนีไม่พ้นตัวเองจากตัวเอง วันนี้และเมื่อวานและต่อๆ ไป จะประหลาดใจทุกครั้งเพราะสัมผัสตัวเอง

ที่ที่มีแต่ความเศร้า
ที่ที่มีแต่ความเหงา
ที่ที่มีแต่ตัวเอง
นำที่ที่มีแต่ความเศร้า
ที่ที่มีแต่ความเหงา
ทำร้ายตัวเองจากตัวเอง

อาลัย


ครั้งหนึ่งที่ฉันอยากเห็นถ้าฉันตายจะมีคนร้องไห้ให้ฉันไหม
ฉันโดดเดี่ยวท่ามกลางเพื่อนที่มีอยู่เต็มห้อง ฉันเดียวดายเหมือนคนตายซากไร้คนสนใจ
ฉัน งง ในตัวเอง ที่แสร้งยิ้มและหัวเราะ ได้อย่างเก่งกาจ
ฉันเป็นคนที่พร้อมหยิบยื่นรอยยิ้มแต่ไร้ซึ่งความจริงใจตอบ

ฉันเห็นว่า คนเจ็บมักได้รับความสนใจ แต่คนสบายอย่างฉันไม่มีใครใยดี
ฉันเรียกร้องหาความเจ็บป่วยให้คนเห็นใจ
ฉันไร้ซึ่งคำตอบเมื่อไร้ซึ่งหนทาง
ความตายนั้นคือยอดปรารถนาแห่งความอาลัย

น้ำตา


ทุกครั้งที่ร้องไห้
เสียใจ
หวั่นไหว
ว้าวุ่น
อ่อนล้า
ตื้นตัน
ทุกอย่าง
กลั่นออกมาจากความรู้สึก
แต่
ต่อไปจงจำไว้
น้ำตาจะไม่ไหลอีกถ้าอดทน


เศษ


เมื่อก่อนเคยเก็บเศษขยะมาเก็บไว้เพื่อว่าจะชั่งกิโลขาย เป็นเศษซองบุหรี่ไม่มีค่าอะไรสำหรับผู้คนแต่สิ่งที่อยู่ในความทรงจำคือ ตัวมวนบุหรี่ไม่เคยมีประโยชน์แม้แต่นำมาชั่งกิโลมันสมควรเป็นแค่เปลวควัน


ความฝัน


ในอดีตเคยมีตำนานอันมากมายเรื่องเล่าแห่งความฝันซึ่งยากจะจดจำได้หมดสิ้น
แต่ จำได้ว่าความฝันของผมจะบินไปให้ไกลสุดขอบฟ้า
ไม่ว่าทางเครื่องบิน
ทางใด
ไม่นาน
ปีกแห่งความฝันจะติดปีกบิน
คงจะมีสักวัน
วันแห่งความฝัน

วีรบุรุษ


ผู้กล้าในความหมายของฉันมีมากมาย
กล้าที่จะต่อสู้
กล้าที่จะปกป้อง
กล้าที่จะเสียสละ
แต่ประโยคที่ฝังใจคือความกล้ากับความโง่มันต่างกัน
ใครละจะกล้าโดดเหวทั้งที่จะตายแน่นอน
นอกจากคนโง่ที่อยากตาย


นั่งบนเก้าอี้

นั่งรออยู่ที่นี่จะรอจนกว่า
เวลาเลิกเรียนจิตใจที่รุ่มร้อนไม่มีสมาธิ
จินตนาการกำลังเตลิดว่าฉันไปพบเธอ
นั่งอยู่ตรงนี้แต่ใจอยู่ที่ไกลแสนไกลอยากจะพบแต่เธอ
ฉันหวังว่าวิญญาณจะสถิตอยู่ที่ chair เพื่อรอเธอ

เสาร์

รอการตอบกลับของคำตอบ
อาทิตย์ ยังรออยู่
จันทร์ก็คิดว่าเธอจะติดต่อมา
อังคารก็ฝันถึงเธอ
พุธ ก็เพจเจอร์สั่นแต่ไม่ใช่ข้อความเธอ
พฤหัสบดี ก็ยังโทรไปหาเธอ
ศุกร์ ก็เริ่มท้อแท้
เสาร์ ก็…เริ่มเข้าใจ
ผ่านมาครบ หนึ่งอาทิตย์ แต่ก็ยังอยากจะพบเธอจะรอถึงวันที่เธอเปลี่ยนใจ

เพื่อน


มิตรภาพที่คนสองคนให้แก่กัน
กว่าจะเข้าใจกันกว่าจะรู้ใจไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนคนทั้งสองคน
สิ่งที่ภูมิใจในวันนี้เราและนายมีความผูกพันมากว่า 9 ปี แต่ก็ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนได้
ความสัมพันธ์นี้ เราก็หวังว่าจะเป็นมิตรแท้
ที่พร้อมจะไปนั่งกินข้าวตอนแก่พูดคุยถึงเรื่องราวในอดีตด้วยกัน
อยากจะเป็นเพื่อนกันไปจนเป็นคุณ ปู่ ด้วยกันทั้งคู่
เราอยากจะบอกว่าเราถึงแม้จะทะเลาะกันบ้างแต่ก็ไม่แปลกอะไรเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา
เราและนายไม่จำเป็นเลยที่จะพูดจากันมากมาย
เราเข้าใจในความเป็นเพื่อนของเราและนายอยู่เสมอ
แม้จะมีวันที่ต้องไกลกันอยู่เสมอ


น้องรัก


ความผิดมากมายที่เคยก่อไว้
ไม่ว่าจะเป็นศอกกลับ จนตาเขียว
ความรักที่พี่ไม่ค่อยจะแสดงออก
น้องอาจจะไม่เชื่อว่าพี่รักน้อง
พี่ไม่มีคำพูดใดกินใจ
แต่อยากจะบอกว่า พี่ เปิดใจทั้งหมดทุ่มเทเพื่อน้องได้
จำไว้ว่าเมื่อใด
ไม่มีใครมีพี่อยู่
แม้จะอยู่ไกลหรือใกล้แต่พี่นี้
ไม่เคยจะทิ้งน้อง

แม่


ไม่มีคำใดจะสาธยายได้ดีเท่ากับ
ความรักของแม่เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่และอบอุ่น
ลูกคนนี้บาปหนาไร้ซึ่งความดีขอให้แม่อภัยให้ด้วย
บาปมหันต์ที่สุด คือบาปที่พูดว่าเกลียดแม่
ขอโทษ ความสำนึกที่สายเกินไป
ร้องไห้ที่เตียงของแม่นั้นไม่มีค่าอะไรเลย
เมื่อแม่ไม่มีลมหายใจเสียแล้ว

พ่อ


ผมรับรู้ความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อไม่ได้แต่ไม่ว่านานแค่ไหน
ผมจะพยายาม พ่ออาจจะไม่อยากสอนผมหรือว่าไม่รู้จะสอนอะไร
แต่ขอบคุณ สำหรับแบบอย่างไม่ดี ที่กระทำให้เห็นไม่ว่า เล่นการพนัน
ดื่มเหล้า ตบแม่ ความประพฤติที่ไม่ดีต่างๆ นานา
ความรุนแรงหนักหน่วงจาก แข้ง จากน้ำมือพ่อช่างยิ่งใหญ่
ไม่ได้ประชดแต่ประเมินค่าถึงความยิ่งใหญ่จากฝ่ามือแรงกายที่ท่านได้สร้างบ้านขึ้นมา
บ้านนี้มีปัญหาแต่ก็ดีผมรู้สึกว่าทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ ทุกครั้งที่อยู่ที่นี่ไม่เหมือนที่ใดเพราะมีพ่อเจ้าปัญหา


รสชาติการรอคอย


ครั้งนึงที่ผมไปนั่งรอสาวที่จะเจอเพื่อจะคุยกับเขานั้น
เหม่อลอยสนใจอยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะมารอตั้งนาน
ผมอยากจะชิมรสหวานจากคำพูดของเธออยากฟังคำเอ่ย
รอยู่นานจนเบื่อข้างกายผมมีแต่ต้นไม้
ไม่มีอะไรทำเบื่อ
เหนื่อย
เด็ดใบไม้ใบหญ้า
มาเคี้ยวอย่างไร้อาย
ทั้งขบเคี้ยวและกลืนอย่างเชื่องช้ารอคอยต่อไป

ไม่เท่าเทียม


จำได้เสมอ
เราและนาย
เพื่อนกัน
แต่
ต่างกัน
ที่
เรามีฐานะดีกว่าตามสายตาของสังคม
นาย ไม่เคยด้อยกว่าเรานายมีมือเท้าและสมอง
เหมือนเรา
เราเคยเล่นเกมเศรษฐีกับนาย
แล้วถูกแม่ห้ามเล่น คบหากับนาย
ทุกอย่างไม่ว่าจะเกมวิ่งไล่จับ ซ่อนหา
เพราะความไม่เท่าเทียมกันของฐานะ
ในเกมนายอาจจะแพ้หรือชนะทุกครั้ง
แต่เรื่องชีวิตจริงที่ต่อสู้อุปสรรคและความลำบาก
เราคงจะแพ้นายทุกครั้ง
ความไม่เท่าเทียมของชีวิตก็เป็นสิ่งที่ผลิต
พลังชีวิตให้กับเราและนายไม่เท่ากัน


ขอโทษ


เธอจะโกรธไหม เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้เธอ
เป็นการรบกวนรึเปล่า ถ้าหากพูดจาเรื่องราวดูเหมือนไร้สาระมากมาย
อยากจะรู้จักกับเธอ
ให้มากขึ้นกว่านี้ เราคงเป็นชายที่ เธอ ดูว่าเป็นคนไม่ดี
อยากจะชวนเธอ อยากพูดกับเธอตั้งมากมาย
อยากขอเพียงเป็นเพื่อน เธอ จะได้ไหม
หรือมากเกินไปไม่สมควร
ควรจะเป็นแค่คนเดินผ่านมาแล้วก็ไป
ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ออกจากใจ
ขอโทษถ้าเธอโกรธ ขอโทษถ้าเธอไม่อยากเจอเรา
ขอโทษ อีกครั้ง ขอโทษจริง ๆ
ขอโทษ
(ที่) อยากจะชวนเธอ อยากพูดกับเธอตั้งมากมาย
อยากขอเพียงเป็นเพื่อน เธอจะได้ไหม
หรือมากเกินไปไม่สมควร
เราอยากจะบอกเธอว่า
ขอโทษจริง ๆ
ไม่รู้จะพูดไงดี
ควรจะเป็นแค่คนเดิน..ผ่านมา..แล้วก็ไป

ความตาย

ปัญหาที่ถกเถียงกันมานาน
อยากจะอยู่หรืออยากจะตายคงไม่สำคัญเท่าที่ว่า
อยากอยู่มีชีวิตไปวัน ๆๆ ปล่อยให้ตัวเองตายไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
พวกนี้เป็นพวกเห็นแก่ตัว
กับ พวกอยากตาย พวกนี้ก็ เป็น ภาระของคนอื่น อีกผิดอีก
สิ่งที่มนุษย์ได้พยายามตอบความซับซ้อนของชีวิตมามากมายไม่ว่าจะเป็นปรัชญา
ศาสนา วิทยาศาสตร์ เพื่อตอบคำถามว่าการคงอยู่และความตายมาจวบจนบัดนี้
พยายาม ยัดเยียด เข้ามา หาเหตุผลการคงอยู่ต่างๆ และแนะวิธีใช้ชีวิตที่ถูกทาง (ของเขา)
แต่ไม่มีความหมายอะไรที่คนอยากตายอย่าง ผมจะให้ใครมาขัดขวาง ชีวิตหลังความตาย
เป็นสิ่งปรารถนามากว่าชีวิตที่อยู่ไปโดยไม่มีวันตาย
เมื่อก่อนมีความคิดว่าอยากอมตะกันมาหลายยุคสมัย
แต่ผมว่ายุคเรานี้ น่าจะเป็นยุค แสวงหา ชีวิตหลังความตายมากกว่า เมื่อก่อน
จาก สถิติ คนฆ่าตัวตาย ในปัจจุบันสูงกว่าเมื่อก่อนมากมาย หลายคน อาจฝันจะไปสวรรค์
แต่ผมขอ ตายไปแล้ว ไม่อยากให้ ใครมาถามว่าทำไม ถึงตาย ทำผิดอะไร
หรือ จะได้ขึ้นสวรรค์
ขออย่างเดียว ตายไปแล้ว ขอเป็นดั่ง กาลเวลา อยู่ เคียง คู่ความ ตาย
อยากเห็นเวลาตาย ของความตาย

"จงเพ่งมองความตายเหมือนที่ความตายมองเรา"

เหตุการณ์


เมื่อก่อนที่เชื่อว่าโลกยังแบนมีมนุษย์อยู่จำพวกนึง

ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าเดินทางไปสุดขอบโลกก็จะพบว่า
มีเหวสุดขอบโลกอยู่ที่นั่น ดั่งการณ์ที่คาดไว้ว่า ปฐพีนั้นจะสิ้นสุดที่
แผนที่ในมือของพวกเขา เหตุการณ์ที่ประทับใจของพวกเขาในนี้คือการทดลอง
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงขึ้นมา โลกนั้นกว้างใหญ่เกินกว่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ
เหมือนสุดขอบจักรวาลที่มนุษย์ยุคปัจจุบันพยายามเดินทางไปให้สุดขอบจักรวาล
เผชิญกับประสบการณ์เหตุการณ์ที่ซับซ้อนเหมือนการหาคำตอบอันไม่สิ้นสุดว่าตัวเองเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร


ผมขออ่านแผ่นสุดท้าย ซึ่งน่าจะเป็นแผ่นที่เขาเขียนก่อนตาย...

...วันที่ผ่านสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตวันนั้น สิ่งที่ดีที่สุดเพียงเหม่อ ออกไปมองภูเขามีฟ้าปรากฏ ท่ามกลางเมฆตัดขอบฟ้าสีฟ้าคล้ายสายรุ้งวิ่งผ่านโลก ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นทุกชีวิตที่สังเกตจะเข้าใจในความหมายนี้ คุณค่าของการมองไม่ใช่อยู่แค่การจดจำ แต่อยู่ที่ภายในดวงใจสัมผัสถึงภายในใจที่เร่าร้อนจะจบลงที่สิ้นสุดการจำทุกอย่างในโลกมองผ่านด้วยความสุขสุดท้ายจากสายตาที่ถูกปิดกั้นด้วยน้ำตาที่ล้นปริ่มกำลังจะไหลลงสู่พื้นหญ้าสีเขียวขจีกับมือที่หยิบมีดเล็กแหลมคมปาดคอด้วยมือตัวเอง เลือดไหลหยดสู่สนามหญ้าเปื้อนสีเลือดอย่างรวดเร็วน่ากลัว สูญสิ้นทุกอย่างแม้ความทรงจำที่ใครเคยบอกว่าเรื่องทุกข์คนจะลืมยากกว่าเรื่องสุข ต่อไปนี้ไม่มีทั้งสองอย่างที่จะจำ เหลือแต่ความรู้สึกว่ากำลังหายใจหอบๆ หัวใจเต้นยาวขึ้น ช้าลง


วันที่ผ่านสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตวันนั้นสิ่งที่ดีที่สุดเพียงเหม่อ ออกไปมองภูเขามีฟ้าปรากฏ ท่ามกลางเมฆตัดขอบฟ้าสีฟ้าคล้ายสายรุ้งวิ่งผ่านโลก ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่ค่อยปรากฏให้เห็นทุกชีวิตที่สังเกตจะเข้าใจในความหมายนี้ คุณค่าของการมองไม่ใช่อยู่แค่การจดจำแต่อยู่ที่ภายในดวงใจสัมผัสถึงภายในใจที่เร่าร้อนจะจบลงที่สิ้นสุดการจำทุกอย่างในโลกมองผ่านด้วยความสุขสุดท้ายจากสายตาที่ถูกปิดกั้นด้วยน้ำตาที่ล้นปริ่มกำลังจะไหลลงสู่พื้นหญ้าสีเขียวขจีกับมือที่หยิบมีดเล็กแหลมคมปาดคอด้วยมือตัวเองเลือดไหลหยดสู่สนามหญ้าเปื้อนสีเลือดอย่างรวดเร็วน่ากลัว สูญสิ้นทุกอย่างแม้ความทรงจำที่ใครเคยบอกว่าเรื่องทุกข์คนจะลืมยากกว่าเรื่องสุข ต่อไปนี้ไม่มีทั้งสองอย่างที่จะจำ เหลือแต่ความรู้สึกว่ากำลังหายใจหอบๆ หัวใจเต้นยาวขึ้น ช้าลง  ทุกอย่างกำลังสิ้นสุดร่างกายกำลังหยุดทำงานเหลือแต่ความรู้สึกว่า กำลังจะตาย

ผมทำอะไรไม่ได้ นอกจากเรียกรถพยาบาล ให้ปากคำต่อตำรวจในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ และผมได้ขอถ่ายเอกสารผลงานของเขารวบรวมเป็นหนังสือสำหรับผมเก็บไว้จนทุกวันนี้.

***เนื่องจากปี2557 มีกำหนดการวางแผนจะรวมเรื่องสั้นของตนเอง ประกวดซีไรต์ แต่ไม่ทัน จึงไปค้นงานเก่าๆ มาดูแปะไว้ที่นี่
๕๕๕๕

****หมายเหตุ นามปากกาเคยลงในคอลัมภ์ประชาทุยของประชาไท
http://www.prachatai.com/column-archives/node/2285

คอยติดตามเรื่องสะกดจิตๆ๐๐๐๐สะกดจิต
Fri, 04/27/2007 'งานเก่าๆ อีกเช่นเดียวกัน ครับ